เอเอฟพี – พายุหิมะกระหน่ำซ้ำอย่างหนัก ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมของรัฐนอร์ท ดาโกตา ในวันจันทร์ (30) ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามเสริมเขื่อนไม่ให้ถูกกัดเซาะจากคลื่นลมรุนแรง และกระแสน้ำเชี่ยวกรากจนพังทลาย
พายุหิมะพัดถล่มเมืองฟาร์โก ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม และยังคงมีการประกาศเตือนภัย ให้ระวังคันกั้นน้ำ และเขื่อนพังทลาย ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำแดงเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 112 ปี ตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้
อย่างไรก็ตาม หิมะที่พัดกระหน่ำพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งกรมอุตุนิยมของสหรัฐฯ คาดว่า จะมีปริมาณ 14 นิ้ว คงไม่ทำให้ภัยน้ำท่วมเลวร้ายลงไปอีก เนื่องจากหิมะไม่น่าละลายจนกว่าระดับน้ำในแม่น้ำจะลดลง แต่กระแสลมแรงอาจทำให้เกิดคลื่นสูงถึง 2 ฟุต ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แนวป้องกันเมืองได้
เจ้าหน้าที่เผยว่า แนวคันกั้นน้ำจะช่วยปกป้องความเสียหายร้ายแรงในพื้นที่ส่วนใหญ่ได้ โดยเสริมว่ามีบ้านเพียง 5 หลังเท่านั้นที่ถูกน้ำกลืนหายไป
ด้านอาสาสมัคร และกองกำลังป้องกันชาติ ต่างช่วยกันนำกระสอบทรายเสริมคันกั้นน้ำ ทว่า การรับมือกับภัยพิบัติจากพายุเพิ่มเติมต้องล่าช้า อันเนื่องมาจากหิมะ ที่ปกคลุมท้องถนน
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวอเมริกันหลายพันคนในรัฐนอร์ท ดาโกตา และมินนิโซตา ต้องอพยพจากบ้านเรือน ที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำท่วม และหิมะกินบริเวณกว้างถึง 14.5 กิโลเมตร โดยยังมีเรือออกลาดตระเวนช่วยเหลือชาวบ้านที่ไม่ยอมอพยพออกจากที่อยู่อาศัยของตัวเองด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ชาวเมืองมัวร์เฮด ในรัฐมินนิโซตา ต่างหวังว่าคันกั้นน้ำและกระสอบทราย จะสามารถต้านทานน้ำที่สูงขึ้นได้ท่ามกลางสภาพอากาศ ที่เลวร้ายมากขึ้น
เจ้าหน้าที่เมืองยังเตือนว่า อาจต้องใช้เวลาถึง 2 เดือน และงบประมาณอีกหลายล้านดอลลาร์ในการทำปัดกวาดความยุ่งเหยิงจากน้ำท่วม คันกั้นน้ำ และเขื่อน