เอเจนซี - ชายชาวอิตาลีรายหนึ่ง เมื่อวันอังคาร (24) ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเขาเป็นผู้บันทึกเทปวิดีโอฉากรักที่ใช้กรรโชกทรัพย์ลูกสาวเจ้าของบริษัท BMW
นายเออร์นาโน บาร์เรตตา อ้างว่าเงินจำนวน 1 ล้านยูโร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจค้นได้ที่บ้านของเขาในอิตาลี คือ เงินออมของเขาและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเงินที่ ซูซาน แคลตเทน ผู้หญิงผู้มั่งคั่งที่สุดในเยอรมนี จ่ายให้กับ นายเฮล์ก สการ์บี วาณิชธนกรชาวสวิตเซอร์แลนด์ หลังจาก สการ์บี ขู่กรรโชกเธอ
แคลตเทน เคยให้เงิน สการ์บี 7 ล้านยูโร (ราว 336 ล้านบาท) หลังถูกหนุ่มวัย 44 ปี รายนี้ หลอกว่า เขาต้องการเงินนำไปจ่ายเพื่อให้ตนเองรอดติดคุกจากกรณีอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ส่งผลให้เด็กรายหนึ่งเสียชีวิต และที่ร้ายกว่านั้นก็เขาอ้างว่าคือพ่อของเด็กเป็นสมาชิกของกลุ่มมาเฟียในอเมริกา พ่อเด็กขู่ว่าหากไม่ให้เงินชดเชยการตายของลูกเขาก็จะถูกฆ่าตาย
ต่อมา แคลตเทน เริ่มรู้ตัวว่าถูกหลอกและขอยุติความสัมพันธ์หลัง สการ์บี ขอเงินเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เขากลับขู่ว่าจะส่งรูปถ่ายและเทปความสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่แอบบันทึกไว้ให้กับสหาย ครอบครัวและสื่อมวลชน จนกว่าเธอจะยอมจ่ายเงิน 49 ล้านยูโร (2,200 ล้านบาท)
สองสัปดาห์หลัง สการ์บี ถูกพิพากษาจำคุก 6 ปี บาร์เรตตา ซึ่งต้องเผชิญการพิจารณาคดีที่ถูกกล่าวหาสมคบคิด ได้ไปปรากฎตัวตามกำหนดไต่สวนมูลฟ้อง ศาลเมืองเปสคารา ในข้อหาฉ้อฉล รวมกันก่ออาชญากรรมและขู่กรรโชกทรัพย์ อย่างไรก็ตามศาลได้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปจนถึงเดือนเมษายน
บาร์เรตตา วัย 63 ปี ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้บันทึกเทปวิดีโอฉากรักอันเร่าร้อนระหว่างสการ์บีและแคลตเทน รวมถึงผู้หญิงอื่นๆ ซึ่งผู้หญิงสาวๆเหล่านั้นถูกขูดรีดให้จ่ายเงินแก่เขา 10 ล้านยูโร แลกกับการไม่เผยแพร่เทปดังกล่าว
แคลตเทน วัย 46 ปี ทายาทตระกูลควอนด์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ BMW และเป็นคุณแม่ลูก 3 ตกเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อปีที่แล้ว จากกรณีแฟนหนุ่มของเธอบันทึกภาพระหว่างมีเพศสัมพันธ์กันและจากนั้นได้ขู่เรียกเงิน 10 ล้านยูโร แลกกับการไม่เผยแพร่เทปดังกล่าว
“ผมรักเยอรมนี และ เฮล์ก สการ์บี เพื่อนของผมที่ถูกจับกุม” บาร์เรตตา บอกกับศาล “ผมรักพวกเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่ชอบเลยกับข่าวต่างๆที่พูดถึงตัวผม มันเป็นเรื่องราวที่ผิดพลาด และเราจะพิสูจน์เรื่องนี้ในการพิจารณาคดี”
บาร์เรตตา บอกว่า ไม่เคยพบแคลตเทน หรือผู้หญิงคนอื่นๆ พร้อมระบุเพิ่มเติมว่าเงิน 1 ล้านยูโร ที่ตำรวจพบภายในบ้านของเขา มาจากลูกค้า19,000 ราย ที่มารักษา ณ ศูนย์บำบัดของเขา “ที่ผมเก็บมันไว้ใต้เตียง เพราะว่าไม่อยากนำมันไปฝากไว้ในธนาคาร”
