ส.ส.ฝ่ายค้านมาเลย์ถูกตั้งข้อหากบฏ หลังขู่ฟ้ององค์สุลต่าน

เอเอฟพี นักการเมืองฝ่ายค้านมาเลเซีย ผู้มากประสบการณ์ถูกตั้งข้อหากบฏ หลังจากวิพากษ์วิจารณ์สุลต่านที่สั่งให้พรรคฝ่ายค้านของเขาลาออกจากตำแหน่งในรัฐเปรัก

คาร์ปัล ซิงห์ จากพรรคเดโมเครติกแอคชันปาร์ตี (ดีเอพี) อาจติดคุก 3 ปี หากพบว่ามีความผิดจริง

คาร์ปัล กล่าวว่า มาเลเซียกำลังถอยหลังไปสู่ยุคมืด หลังจากสุลต่านแห่งรัฐเปรักสั่งให้พรรคฝ่ายค้านลาออกจากตำแหน่ง

“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย” เขากล่าวเมื่อวานนี้ ขณะที่มาฟังการพิจารณาคดี “มันเป็นส่วหนึ่งของงานที่เราจะพุดโดยปราศจากความกลัวหรือแรงสนับสนุนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อถูกทำให้ตกเป็นเหยื่อโดยรัฐบาล เราจะยืนกรานกับสิ่งนี้ในศาล” เขากล่าว

คำวิพากษ์วิจารณ์ของคาร์ปัลเกิดขึ้น หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว สุลต่าน อัซลัน ชาห์ สั่งให้หัวหน้ารัฐบาลท้องถิ่นลาออกจากตำแหน่ง หลังจากหลังสมาชิก 4 คนของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งกุมเสียงข้างมากในสภาแบบฉิวเฉียด ได้แปรพักตร์เปลี่ยนขั้วมาอยู่กับฝ่ายรัฐบาล

ข้อกล่าวหากบฏอ้างถึงความเห็นของคาร์ปัลในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อมีการกล่าวหาว่าเขาตั้งคำถามถึงสิทธิขององค์สุลต่านในการแต่งตังหัวหน้ารัฐคนใหม่ รวมทั้งเขาขู่ว่าจะฟ้องร้ององค์สุลต่านด้วย

ด้าน อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า การดำนินคดีนี้เป็นส่วนหนึ่งของการอาฆาตพยาบาทจากพรรครัฐบาล

การตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่โกบินด์ ซิงห์ ดีโอ ลูกชายของคาร์ปัล ซึ่งเป็น ส.ส.ของดีเอพี ถูกสั่งให้ห้ามจากการเป็นสมาชิกรัฐสภา 1 ปี หลังจากเขากล่าวหาว่ารองนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก ว่า เป็นฆาตกร ระหว่างการอภิปรายในรัฐสภาซึ่งมีการถกเถียงอย่างดุเดือด

นาจิบ ย้ำอยู่ตลอดว่า เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับการฆาตกรรม อัลตานตุยา ชาริบู สาวชาวมองโกเลียวัย 26 ปี ซึ่งเป็นคนรักของคนสนิทของเขา เมื่อปี 2006