“ยุคโอบามา” เด่นด้วย “ฝันไกล-เร่งทำงาน”

เอเอฟพี - นักวิเคราะห์ ระบุ อิทธิพลเพียงอย่างเดียวที่ทำให้การเมืองอเมริกันต่อกรกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงขณะนี้ได้ ก็คือ ความทะเยอทะยานของรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของบารัค โอบามา เพราะผู้นำสหรัฐฯ ยืนกรานไม่ประนีประนอมเป้าหมายที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้จะต้องเผชิญกับภาวะหุ้นทรุดดิ่ง ธุรกิจธนาคารที่กำลังง่อนแง่น และการลุกลามของปัญหาไปทั่วโลก

ประธานาธิบดีซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่ถึง 7 สัปดาห์ กำลังปฏิบัติ “นโยบายสำคัญๆ ด้วยวิธีการที่ยิ่งใหญ่” ทอม บัลดิโน นักรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยวิลค์ส์ มลรัฐเพนซิลเวเนีย กล่าวและเสริมว่า

“จะเห็นได้ชัดเจนอย่างยิ่งว่าเขากำลังทำทุกอย่างด้วยอำนาจที่มีอยู่และใช้ทรัพยากรทั้งหมดเพื่อแสดงให้เราเห็นว่า สิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นแตกต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง”

ทั้งนี้ รัฐบาลโอบามาได้เข้าแทรกแซงเศรษฐกิจของอเมริกาอย่างมากมายที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา อีกทั้งยืนยันว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการปฏิรูปมากกว่าเป็นอุปสรรคขัดขวาง

โอบามากำลังพยายามปฏิรูปเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ไฟฟ้าในบ้านของชาวอเมริกัน, ประเภทของรถยนต์ที่ชาวอเมริกันขับขี่, และวิธีที่ชาวอเมริกันจะได้รับการรักษาพยาบาล อีกทั้งยังล้มเลิกนโยบายจำนวนมากในยุครัฐบาลบุช ตั้งแต่เรื่องการทรมานนักโทษไปจนถึงเรื่องสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์

ขณะเดียวกัน เขายังขีดเส้นตายยุติสงครามอิรักในปี 2010, สั่งเสริมกำลังทหารเข้าไปในอัฟกานิสถาน และกระทั่งสอดสายตาไปยังเรื่องสภาพภูมิอากาศของโลก ด้วยการประกาศว่าจะทุ่มเทพลังบารมีของสหรัฐฯเข้าหนุนการต่อสู้เพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน

เขาให้คำมั่นสัญญารวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว เพื่อช่วยภาคธุรกิจการเงิน และจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะถดถอย

แต่แม้ใช้จ่ายกันมากมายมหาศาลเช่นนี้ เขาก็ยังให้สัญญาว่าจะลดการขาดดุลงบประมาณที่ทะยานสูงขึ้นอย่างมาก ให้ได้ครึ่งหนึ่งเมื่อสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งของเขาในปี 2013

แม้ว่าขณะนี้อาจยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินการดำเนินนโยบายของโอบามา แต่แนวทางดำเนินงานแบบรอบด้านของเขากำลังใช้ได้ผลในทางการเมือง ดังที่ผลสำรวจความเห็นของมหาวิทยาลัยควินนิเปกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า ชาวอเมริกัน 59 เปอร์เซ็นต์ เห็นด้วยกับสิ่งที่โอบามากำลังทำอยู่ แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่แน่ใจว่าประเทศจะพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจได้โดยเร็ว

“เห็นชัดๆ เลยว่าการเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนนั้นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักการเมืองและสำหรับประธานาธิบดี” ปีเตอร์ บราวน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการของสถาบันสำรวจคะแนนนิยมควินนิเปกบอกและเสริมว่า “การรู้จักสร้างบารมีให้คนอื่นชอบ ตลอดจนวิธีวางตัว การพูดจา และการเป็นคนติดดิน เป็นวิธีที่ใช้ได้อีกนานเลยทีเดียว”

แต่ก็มีเสียงเตือนเช่นกันว่า ความทะเยอทะยานของโอบามานั้น อาจไปไกลเกินควบคุม และเขายังเสี่ยงที่จะประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่หากจัดลำดับความสำคัญของปัญหาผิดพลาด อย่างเช่นเรื่องการปฏิรูประบบการรักษาพยาบาลที่มีเสียงท้วงติงถึงความเร่งด่วนในการดำเนินการ

ทว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (5) โอบามา ก็ยืนกรานว่า “มีบางคนบอกว่าเราอาจกำลังทำอะไรต่ออะไรมากเกินไป ในขณะที่เราตกอยู่ในท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและตัวระบบเองก็ทำงานหนักมากเกินกำลังแล้ว ดังนั้น เราจึงควรเลื่อนเรื่องนี้ออกไปก่อน”

“เรามีเหตุผลที่จะปฏิเสธเรื่องนี้ได้เสมอ แต่มันกระตุ้นให้ผมคิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะจะแก้ปัญหา” เขาบอก

แม้โอบามาจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาหลายๆ เรื่อง แต่ก็มีการปฏิบัติการหลายอย่าง เช่น แผนการมหึมาที่จะบรรเทาการฟ้องร้องยึดบ้านติดจำนอง ซึ่งประกาศออกไปเมื่อหลายๆ สัปดาห์ก่อน เป็นสิ่งที่ต้องตัดสินใจกันทันควัน เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่กำลังพัฒนาไป

เมื่อครั้งยังเป็นผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โอบามาคงไม่ได้คิดว่าจะต้องมารับผิดชอบแผนฟื้นฟูสถาบันการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ หรือแม้แต่ต้องมาผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 787,000 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ชาวอเมริกันยังให้เวลาโอบามาพิสูจน์ฝีมือ อย่างน้อยก็ราว 2 ปี เพราะด่านทดสอบแรกของเขาก็คือการเลือกตั้งกลางสมัยในปี 2010 นั่นเอง ซึ่งจะมีทั้งการเลือกสมาชิกสภาล่างทั้งสภา, วุฒิสมาชิกราวหนึ่งในสาม และผู้ว่าการมลรัฐราวหนึ่งในสาม