เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรี ทาโร อะโซ แห่งญี่ปุ่นเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ในฐานะแขกต่างชาติคนแรกของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งต้องการคลายความกังวลกับพันธมิตรชาติเอเชียที่สำคัญ และหารือแก้วิกฤตเศรษฐกิจโลก
2 ผู้นำของประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก 2 อันดับ จะร่วมหารือกัน เพื่อต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ขณะที่ทั้งญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ประกาศใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไปแล้วหลายแสนล้านดอลลาร์
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การเดินทางของอะโซ ซึ่งน้อยกว่า 24 ชั่วโมงครั้งนี้ เป็นการเดินทางเชิงสัญลักษณ์มากกว่า โดยมีเป้าหมายเพื่อคลายความกังวลของรัฐบาลโตเกียว ที่ว่า รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะให้ความสำคัญกับจีนมากกว่าพันธมิตรยาวนานอย่างญี่ปุ่น
อะโซ เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ในคืนวันจันทร์ (23) ตามเวลาท้องถิ่น และจะเข้าพบโอบามาในเช้าวันอังคาร (24) ก่อนที่ผู้นำสหรัฐฯ จะเปิดโอกาสให้ผู้นำญี่ปุ่นร่วมฟังการพูดในที่ประชุมสภาคองเกรสเป็นครั้งแรกด้วย
ด้าน คาซูโอ โคดามา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น เผยว่า “เรารู้สึกซาบซึ้งอย่างสูงกับสัญญาณของรัฐบาลชุดใหม่ที่เห็นความสำคัญของความเป็นพันธมิตรของเราเป็นนโยบายต่างประเทศสำคัญของอเมริกา”
“ผู้นำของเราสามารถแสดงให้โลกได้รู้ว่ามหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 1 และอันดับ 2 จะหารือร่วมกันในประเด็นเร่งด่วนสำหรับปัจจุบัน ทั้งวิกฤตการเงิน และเศรษฐกิจ” เขาเสริม
นอกจากนี้ โคดามา กล่าวว่า อะโซ ยังจะแสดงความไม่พอใจต่อนโยบาย “Buy America” ที่อยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ด้วย
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐบาลประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช มาโดยตลอด จนกระทั่งในปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ถอดชื่อเกาหลีเหนือออกจากรายนามประเทศผู้สนับสนุนก่อการร้าย ตามข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งญี่ปุ่นคัดค้าน เนื่องจากเปียงยางยังไม่สามารถคลี่คลายปัญหาพลเมืองญี่ปุ่นถูกลักพาตัวไปในทศวรรษที่ 1970 และ 1980 เพื่อฝึกสายลับให้กับเกาหลีเหนือได้