เอเอฟพี - กัฟเวิร์นเมนต์ ออฟ สิงคโปร์ อินเวสเมนต์ คอร์ป (จีไอซี) กองทุนเพื่อการลงทุนภาครัฐของรัฐบาลสิงคโปร์ ขาดทุนยับเยินถึงราว 50,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในปีที่แล้ว แหล่งข่าวหลายรายบอกกับสำนักข่าวดาวโจนส์นิวส์ไวร์เมื่อวันอังคาร(17)
"ยอดขาดทุนของพอร์ตการลงทุนในปีที่แล้ว ประมาณกันว่าอยู่ราวๆ 45,000 - 50,000 ล้าน (ดอลลาร์สิงคโปร์)" หนึ่งในสองของบุคคลผู้คุ้นเคยกับสถานการณ์ของกองทุนจีไอซี บอกกับดาวโจนส์ "แต่จีไอซีไม่ได้มีความคิดที่จะขายทิ้งการลงทุนรายใหญ่ๆ ใดๆ ของตนหรอก พวกเขาจะรอไปจนกว่าการลงทุนเหล่านี้จะฟื้นตัวขึ้นมา"
เมื่อปลายปี 2007 จนถึงต้นปี 2008 จีไอซีได้อัดฉีดเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเข้าไปลงทุนช่วย ยูบีเอส แบงก์ยักษ์สัญชาติสวิส ตลอดจน ซิตี้กรุ๊ป ธนาคารใหญ่อเมริกัน ในเวลาต่อมาปรากฏว่าแบงก์ทั้งสองแห่งนี้ต่างขาดทุนสาหัสเนื่องจากการพัวพันกับวิกฤตซับไพรม์
ทางด้านบุคคลคนที่สองที่รู้เรื่องจีไอซี บอกกับดาวโจนส์ว่า ยอดขาดทุนในปีที่แล้วของจีไอซี "ได้รับการประเมินเมื่อเร็วๆ นี้ว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับของเทมาเส็ก"
รัฐมนตรีช่วยอาวุโสรับผิดชอบด้านการเงิน ลิมฮวีฮวา แถลงต่อรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า พอร์ตลงทุนของเทมาเส็ก ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนปี 2008 ได้ลดฮวบลงเหลือ 127,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือหดหายไป 58,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ จากที่เคยอยู่ในระดับ 185,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ณ 31 มีนาคม 2008
"ยอดขาดทุนของพอร์ตการลงทุนในปีที่แล้ว ประมาณกันว่าอยู่ราวๆ 45,000 - 50,000 ล้าน (ดอลลาร์สิงคโปร์)" หนึ่งในสองของบุคคลผู้คุ้นเคยกับสถานการณ์ของกองทุนจีไอซี บอกกับดาวโจนส์ "แต่จีไอซีไม่ได้มีความคิดที่จะขายทิ้งการลงทุนรายใหญ่ๆ ใดๆ ของตนหรอก พวกเขาจะรอไปจนกว่าการลงทุนเหล่านี้จะฟื้นตัวขึ้นมา"
เมื่อปลายปี 2007 จนถึงต้นปี 2008 จีไอซีได้อัดฉีดเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเข้าไปลงทุนช่วย ยูบีเอส แบงก์ยักษ์สัญชาติสวิส ตลอดจน ซิตี้กรุ๊ป ธนาคารใหญ่อเมริกัน ในเวลาต่อมาปรากฏว่าแบงก์ทั้งสองแห่งนี้ต่างขาดทุนสาหัสเนื่องจากการพัวพันกับวิกฤตซับไพรม์
ทางด้านบุคคลคนที่สองที่รู้เรื่องจีไอซี บอกกับดาวโจนส์ว่า ยอดขาดทุนในปีที่แล้วของจีไอซี "ได้รับการประเมินเมื่อเร็วๆ นี้ว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับของเทมาเส็ก"
รัฐมนตรีช่วยอาวุโสรับผิดชอบด้านการเงิน ลิมฮวีฮวา แถลงต่อรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า พอร์ตลงทุนของเทมาเส็ก ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนปี 2008 ได้ลดฮวบลงเหลือ 127,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือหดหายไป 58,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ จากที่เคยอยู่ในระดับ 185,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ณ 31 มีนาคม 2008