เอเจนซี - ราคาน้ำมันดิ่งลง 5.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันพฤหัสบดี (12) ปิด 33.98 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน และขยับจ่อหล่นสู่อัตราต่ำสุดในรอบ 5 ปี หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและความกังวลต่อสุขภาพเศรษฐกิจโลก
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 33.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2008 และขยับเข้าใกล้ราคาปิดต่ำสุดในรอบ 5 ปี 32.20 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ปีที่แล้ว ด้านน้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ปรับตัวขึ้น 37 เซนต์ ปิดที่ 44.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันทรุดลงมีขึ้นหลังจากรายงานรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (11) เปิดเผยว่า คลังน้ำมันดิบสำรองทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจยังคงเล่นงานธุรกิจและอุปสงค์พลังงานของผู้บริโภค
สต๊อกน้ำมันดิบ ณ เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา -- ศูนย์กลางคลังน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลกและจุดส่งมอบจุดน้ำมันตามสัญญาตลาดไนเม็กซ์ -- เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นตะระดับสูงสุดตลอดกาล 35 ล้านบาร์เรล ใกล้ความสามารถในการกักเก็บสูงสุด
“แรงกดดันต่อน้ำมันส่วนใหญ่ในวันนี้ ยังคงมาจากข้อมูลเมื่อวานที่แสดงถึงอุปทานน้ำมันสหรัฐฯอันก้าวกระโดด ซึ่งรวมไปถึง ณ จุดส่งมอบจุดน้ำมันตามสัญญาในตลาดไนเม็กซ์ ที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา” แอนดี เลโบว์ โบรกเกอค์จากเอ็มเอฟโกลบอล ระบุ “ยังมีการคาดหมายล่วงหน้าอีกว่าสต๊อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้”
อีกปัจจัยที่ฉุดให้ราคาน้ำมันดิ่งลงเมื่อวันพฤหัสบดี (12) มาจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่ามีจำนวนประชาชนที่ขอรับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเพิ่มขึ้นอีก 11,000 คน สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4.8 ล้านคนในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม
“สิ่งเหล่านั้นย้ำให้เห็นถึงทิศทางที่แย่และดูเหมือนยิ่งจะเลวร้ายลงไปอีก สำหรับคนว่างงาน เดือนกุมภาพันธ์ จะมากกว่าเดือนมกราคมด้วย” ไนเจล เกาล์ท นักเศรษฐศาสตร์จากโกลบอลอินไซต์ ระบุ
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของโลกกระทบต่อการบริโภคน้ำมันโดยรวมของโลก และเห็นได้ชัดว่าอุปทานพลังงานมีปริมาณมากกว่าอุปสงค์ในหลายส่วนของโลก แม้ว่าโอเปกได้ลดกำลังผลิตลงหลายระลอกแล้วก็ตาม
นายชาคิบ เคลิล รัฐมนตรีน้ำมันแอลจีเรีย บอกกับรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดี (12) ว่า มีความเป็นไปได้ราว 50 เปอร์เซ็นต์ ที่โอเปกจะมีมติลดกำลังผลิตรุนแรงในการประชุมครั้งหน้าเดือนมีนาคม
