เอเอฟพี/เอเจนซี - แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา กำลังพยายามกดดันอย่างหนักเพื่อให้ประกาศออกมาใช้ภายในกลางเดือนนี้ สามารถก้าวคืบหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง เมื่อสภาสูงสหรัฐฯลงมติปิดขั้นตอนการอภิปรายแปรญัตติไปได้แล้วในวันเสาร์ (7) เพื่อที่จะลงมติกันในวันอังคาร (10) นี้
วุฒิสภาสหรัฐฯเปิดประชุมกันในช่วงสุดสัปดาห์แบบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก และใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงครึ่งเมื่อวันเสาร์ (7) ก็ผ่านวาระอภิปรายแปรญัตติไปได้ โดยจากนี้แล้วจะเป็นวาระการลงมติที่จะมีขึ้นวันอังคาร (10) นี้ ทางด้านประธานาธิบดีโอบามา แสดงความยินดีต่อข้อตกลงประนีประนอมคราวนี้ พร้อมย้ำว่า ในสภาพที่สหรัฐฯกำลังมีการปลดพนักงานระลอกใหญ่เช่นนี้ จึงยิ่งถึงเวลาที่จะต้องลงมือปฏิบัติการเพื่อรับมือกับปัญหา
ร่างกฎหมายที่ผ่านวาระอภิปรายแปรญัตติของวุฒิสภาแล้วนี้ จะมีมูลค่าน้อยกว่าข้อเสนอของฝ่ายพรรคเดโมแครตในตอนแรกซึ่งมีมูลค่า 937,000 ล้านดอลลาร์ โดยที่พวกเดโมแครตประนีประนอมยอมตัดมาตรการบางอย่างลง เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันอย่างน้อยก็บางส่วน ทั้งนี้ หลังจากที่ ส.ส.พรรครีพับลิกันทั้งหมดไม่มีใครโหวตเห็นชอบเลย เมื่อมีการพิจารณาร่างกฎหมายทำนองเดียวกันนี้ในสภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์ก่อน โดยที่ร่างกฎหมายที่ผ่านสภาล่างแล้วนี้ บรรดามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมแล้วมีมูลค่า 820,000 ล้านดอลลาร์
จากคะแนนเสียงของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ที่มีอยู่เกินกึ่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ถึง 3 ใน 5 อันถือเป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด ก็หมายความว่า พวกเขาต้องการให้มีวุฒิสมาชิกรีพับลิกันมาลงคะแนนสนับสนุนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ก็จะสามารถผลักดันร่างกฎหมายที่แปรญัตติแล้วนี้ผ่านวุฒิสภาไปแล้ว
แต่ในเมื่อร่างของสภาสูงและของสภาล่างยังมีเนื้อหาข้อความที่ไม่ตรงกัน ทั้งสองสภาจึงจะต้องมาตกลงรวมร่างกฎหมายให้เป็นฉบับเดียว และโหวตลงมติขั้นสุดท้ายกันอีกครั้ง โดยที่โอบามาประกาศว่าต้องการให้ร่างกฎหมายฉบับผ่านสภาทั้งสองแล้ว มาถึงมือเขาภายในวันที่ 16 นี้
จอห์น เคร์รี วุฒิสมาชิกเดโมแครต ซึ่งปฏิเสธข้อเรียกร้องของรีพับลิกัน ที่ให้ลดมูลค่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลงไปอีก แถลงว่าสหรัฐฯ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกู้เงินเพิ่มมาใช้ในแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ และพยายามผลักดันให้เศรษฐกิจกระเตื้องจนพ้นวิกฤต เขาตอกกลับพวกรีพับลิกันด้วยว่า ขณะนี้คนอเมริกันกำลังเผชิญกับผลลัพธ์จากการบริหารประเทศ 8 ปีที่ผ่านมาภายใต้การนำของ จอร์จ ดับเบิลยู บุช
ทางด้าน โอบามา นั้น มีแผนรณรงค์ผลักดันให้รัฐสภาผ่านแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวดเร็ว ด้วยการออกเดินสายหาเสียงสนับสนุนปลายสัปดาห์นี้ที่มลรัฐอินดีแอนา และฟลอริดา นอกจากนั้น เขายังจะจัดการแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางทีวีในช่วงไพรม์ไทม์เป็นครั้งแรกของเขาในวันนี้ (9)
บรรดาวุฒิสมาชิกของเดโมแครตตกลงยินยอมเมื่อคืนวันศุกร์ (6) ที่จะประนีประนอมปรับเปลี่ยนร่างเดิมมูลค่า 937,000 ล้านดอลลาร์ของพวกตน โดยหั่นลดมาตรการทางด้านการใช้จ่าย และเพิ่มมาตรการด้านการลดภาษี จนทำให้มูลค่าของร่างกฎหมายนี้ลดลงมาเหลือราวๆ 800,000 ล้านดอลลาร์
การประนีประนอมเช่นนี้บังเกิดขึ้น ภายหลังการเจรจาลับหลายรอบของกลุ่มสมาชิกรีพับลิกันและเดโมแครตที่ยังไม่ฟันธงว่าจะเลือกข้างไหน ท่ามกลางแรงกดดันของทำเนียบขาว และตัวเลขการว่างงานที่ขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
แหล่งข่าวในสภาสูง แย้มว่า ตัวเลขสุดท้ายอาจจะเป็น 800,000 ล้านดอลลาร์โดยประมาณ เนื่องจากยังมีมาตราในร่างกฎหมายอีกหลายมาตราที่มีผู้สงวนเอาไว้และต้องรอการลงมติ ขณะที่สมาชิกรีพับลิกันที่ต่อต้านร่างดั้งเดิม ก็กำลังหันโฟกัสไปคัดค้านส่วนของร่างที่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วด้วย
พลพรรครีพับลิกันอ้างการคำนวณของพวกตน ว่า ร่างกฎหมายฉบับใหม่จะมีมูลค่าประมาณ 830,000 ล้านดอลลาร์ รวมภาระหนี้อีกเกือบ 350,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้ตัวเลขสุดท้ายน่าจะอยู่ที่ราว 1.2 ล้านล้านดอลลาร์
จอห์น แมคเคน ส.ว.รีพับลิกัน ที่พ่ายแพ้แก่โอบามาในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีที่แล้ว โจมตีว่า หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบ จะถือเป็นวันอันเลวร้ายสำหรับชาวอเมริกัน
อนึ่ง วันศุกร์ (6) ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน รายงานว่า อัตราว่างงานสหรัฐฯ ประจำเดือนมกราคมพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 7.6% สูงสุดนับจากปี 1992 ขณะที่การปลดพนักงานเกือบ 600,000 ตำแหน่ง ถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับจากปี 1974