เอเอฟพี – หญิงสาวชาวแคลิฟอร์เนีย ที่ให้กำเนิดลูกแฝด พร้อมกันทีเดียว 8 คน ในสัปดาห์ที่แล้ว ให้สัมภาษณ์กับสื่อครั้งแรก เผยเธออยากมีครอบครัวใหญ่ เพื่อชดเชยวัยเด็กที่โดดเดี่ยว
นาเดีย สุเลมาน วัย 33 ปี ซึ่งในตอนนี้มีแล้วทั้งสิ้น 14 คน ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ที่จะออกอากาศในวันศุกร์ (6) ตามเวลาท้องถิ่นว่า การเป็นลูกคนเดียวทำให้เธอโหยหาความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ และครอบครัว ซึ่งเธอขาดไปช่วงที่กำลังเติบโต
“นั่นเป็นฝันของฉันมาโดยตลอด ที่จะมีครอบครัวใหญ่ๆ คนเยอะๆ ฉันปรารถนาที่จะมีสัมพันธ์ และความผูกพันกับคนอื่นๆ ที่ฉันเชื่อว่าฉันขาดไปตอนที่โตขึ้นมา” สุเลมานกล่าว
คณะกรรมการการแพทย์ของแคลิฟอร์เนียยืนยันในวันพฤหัสบดี (5) ที่ผ่านมาว่า ได้เริ่มสอบสวนกำเนิดของเด็กแฝด 8 คนนี้ เพื่อพิสูจน์ว่ามีการละเมิดมาตรการการรักษาพยาบาลใดๆ หรือไม่ เนื่องจากกระณีของสุเลมานทำให้ผู้เชี่ยวชาญการเจริญพันธุ์ไม่พอใจ หลังจากปรากฏว่าเธอเพาะเอ็มบริโอแช่แข็งไว้ 8 ใบ ก่อนหน้านี้
ภายใต้นโยบาย ที่ออกโดยสมาคมการแพทย์เพื่อการสืบพันธุ์ของอเมริกัน (เอเอสอาร์เอ็ม) ชี้ว่า ผู้หญิงในวัยอย่างสุเลมานไม่ควรเพาะเอ็มบริโอไว้เกิน 2 ใบ
สุเลมานบอกยังบอกกับเอ็นบีซีว่า ชีวิตในวัยเด็กทำให้เธอรู้สึกขาดความมั่นใจ และความเป็นตัวของตัวเอง “ฉันไม่รู้สึกว่าตอนยังเด็กฉันมีอำนาจควบคุมสิ่งแวดล้อมของฉันได้ ฉันรู้สึกอ่อนแอ และนั่นทำให้ฉันมีสัมผัสในการพยากรณ์”
เธอกล่าวว่า เธอพยายามตั้งครรภ์มาหลายปี แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนหน้าที่จะมารับการรักษาด้วยวิธีผสมเทียมแบบไวโตร หรือไอวีเอฟ และเมื่อประสบความสำเร็จในขั้นตอนแรก เธอจึงจะดำเนินการด้วยวิธีนี้ต่อไป
สุเลมาน ซึ่งถูกไล่ออกจากศูนย์การแพทย์เบลล์ฟลาวเวอร์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานั้น ยังไม่ได้แต่งงาน และอาศัยอยู่กับแม่ของเธอ โดยแม่ของเธอแสดงออกถึงความโกรธ ที่ลูกสาวหมกมุ่นกับการมีลูกมากจนเกินไป และลูกทั้ง 14 คนของเธอก็กำเนิดมาจากสเปิร์มของผู้มาบริจาค
ด้านโจแอน คิลลีน นักเขียนที่ถูกว่าจ้างโดยสุเลมานเผยว่า สุเลมานนั้นต้องการจะเป็นแม่ที่ดีที่สุดที่เธอจะสามารถเป็นได้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ทำคลอดให้สุเลมานระบุว่า ลูกแฝดทั้ง 8 คนของเธออาการปกติดี และหายใจได้เองตามธรรมชาติ หลังจากคลอดก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ด้วยการผ่าตัดทางหน้าท้อง และกลายเป็นเด็กแฝด 8 คนที่มีชีวิตอยู่นานที่สุดในโลก