เอเอฟพี – โฆษกรัฐบาลท้องถิ่น เผย เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ที่บ้านพักคนชราในสาธารณรัฐโคมี ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของรัสเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 คน ในวันเสาร์ (31) ที่ผ่านมา
โฆษกหญิงของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์จากซีกตีฟการ์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐโคมี ว่า จากข้อมูลเบื้องต้นนั้นระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 23 ราย และอีก 3 คนปลอดภัย
เธอเผยว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับแจ้งเมื่อเวลาประมาณ 18.20 น.ในวันเสาร์ (31) ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 22.20 น.ตามเวลาของไทย และถึงที่เกิดเหตุในเวลา 18.44 น.แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยมีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายครอบคลุมมากกว่า 1,000 ตารางเมตร
บ้านพักคนชราดังกล่าวตั้งอยู่ในหมู่บ้านโปดีลสค์ ห่างจากเมืองหลวงของโคมี ประมาณ 100 กิโลเมตร ขณะที่โฆษกหญิงรายนี้ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้ที่อยู่ในบ้านพักดังกล่าวขณะเกิดเหตุได้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เสริมว่า จนถึงตอนนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ศพ
สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ รายงาน โดยอ้างถึงเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินอีกรายระบุว่า อาจจะมีคนอยู่ในอาคารที่เกิดเพลิงไหม้มากถึง 60 คน
ส่วน กริกอรี กอร์บูนอฟ โฆษกกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เปอร์วี คาเนล ว่า มีผู้ลงทะเบียนเข้าอยู่ในบ้านพักคนชราดังกล่าวรวม 26 คน โดยเสริมว่า นักดับเพลิงได้รับแจ้งช้าเกินไป เมื่อพวกเขามาถึงที่เกิดเหตุ ไฟก็ได้ลามทั่วอาคารแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น กระทรวงดังกล่าวได้แถลงในเช้าวันนี้ (1) ว่า ผู้รอดชีวิต 3 คนจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นางพยาบาล และนักสังคมสงเคราะห์ แต่มีเพียงคนเดียวที่อยู่ในอาคาร ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้
ทั้งนี้ กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉิน ชี้ว่า อาคารที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นโครงสร้างไม้ชั้นเดียว เป็นบ้านพักสำหรับคนเฒ่าคนแก่ และผู้พิการ
สำหรับประธานาธิบดี ดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซียได้สั่งให้มีการสอบสวนขั้นสูงในเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ขณะที่คณะกรรมการสอบสวนคาดการณ์สรุปว่าสาเหตุอาจเนื่องมาจากการสูบบุหรี่โดยประมาท
ก่อนหน้านี้ ในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ก็เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักคนชราในเมืองใกล้ชายแดนรัสเซีย-ยูเครน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คน และในเดือนธันวาคมปี 2006 มีผู้เสียชีวิต 45 คนจ ากเหตุเพลิงไหม้ในสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติดในกรุงมอสโก