เอเอฟพี – กองกำลังทหารของอิสราเอล และกลุ่มฮามาส ยิงจรวดโต้ตอบกันในกาซาวันนี้ (18) ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงมีอันต้องล้มเหลว ไม่นานหลังจากยิวหยุดทำสงครามถล่มกลุ่มฮามาสอย่างนองเลือดเป็นเวลา 22 วัน ขณะที่ยอดชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 1,300 คนแล้ว
กองทัพอิสราเอลได้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกลุ่มฮามาส ที่ยิงจรวดไปยังอิสราเอล โดยนายกรัฐมนตรี เอฮุด โอเมิร์ต ได้ออกมาเตือนว่า ข้อตกลงหยุดยิงฝ่ายเดียวที่อิสราเอลเริ่มใช้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เปราะบาง และต้องมีการพิจารณาทบทวนอีกครั้ง
“การตัดสินใจของรัฐบาลยอมให้อิสราเอลตอบโต้ และยิงโจมตีได้อีก หากศัตรูของเราในฉนวนกาซา ยังคงโจมตีต่อไป” เขากล่าวในการเริ่มประชุมประจำสัปดาห์ในนครเยรูซาเลม
“เราหวังว่าการยิงโจมตีจะยุติลง แต่หากต้องดำเนินต่อไป ไอดีเอฟ (กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล) ก็จะตอบโต้ โดยที่มีการเตรียมพร้อม และเคลื่อนกำลังแล้ว” เขากล่าว
ก่อนหน้านี้ ในวันเดียวกัน อิสราเอล ยืนยันว่า มีการหยุดยิงโจมตีในกาซาแล้ว แต่เสริมว่า กองทัพจะยังคงอยู่ในกาซาต่อไปเพื่อตอบโต้ หากกลุ่มหัวรุนแรงยิงจรวดโจมตีดินแดนของอิสราเอลอีก
การยิงตอบโต้กันครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงผลักดันทางการทูตครั้งใหญ่ โดยอียิปต์ ที่ทำให้อิสราเอลหยุดยิงฝ่ายเดียวก่อนได้ พร้อมกับที่ประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำจากอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี จอร์แดน สเปน และตุรกี เพื่อหารือแก้ไขวิกฤตในตะวันออกกลาง
ด้านแพทย์ในปาเลสไตน์ ระบุว่า ในวันนี้พบศพชาวปาเลสไตน์เพิ่มอีก 95 ศพ ในซากปรักหักพังจากการถูกโจมตี โดยส่วนใหญ่พบในเมืองจาบาลิยา และ เบตลาฮิยา ทางตอนเหนือของกาซา และบางส่วนที่พบในเซย์ตัน ทางตะวันตกเฉียงใต้
สำหรับการพบศพในวันนี้ ทำให้ยอดชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตในกาซา นับตั้งแต่อิสราเอลปฏิบัติการทางทหารถล่มกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น เพิ่มขึ้นเป็น 1,300 รายเป็นอย่างน้อย