เอเอฟพี - ญาติของผู้สูญหายจากเหตุเรือเฟอร์รีอับปางที่อินโดนีเซียเมื่อ 4 วันก่อน เรียกร้องอย่างกริ้วโกรธให้ทางการเร่งค้นหาผู้ประสบภัย
จนถึงตอนนี้ พบผู้รอดชีวิตเพียง 35 ราย และผู้เสียชีวิต 2 คน บริเวณช่องแคบทางตะวันตกของเกาะสุลาเวสี หลังเรือโดยสารลำหนึ่ง เกิดอับปางกลางทะเลท่ามกลางมรสุมหนักเมื่อวันอาทิตย์ (11) ขณะที่ทางการยอมรับว่า แทบไม่มีความหวังว่า จะพบผู้สูญหายในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่
ส่วนญาติของผู้สูญหาย ซึ่งมารอฟังข่าวด้วยว่ากระวนกระวายใจที่ศูนย์ประสานงานค้นหาผู้ประสบภัยที่เกาะสุลาเวสี ยังไม่ยอมสิ้นหวัง และตำหนิว่า รัฐบาลต้องทำอะไรมากกว่านี้ เพื่อตามหาเหยื่อ
ประชาชนราว 50 คน ชุมนุมประท้วงหน้าศูนย์จัดการภัยพิบัติที่เมืองมาจีนี หนึ่งในเมืองซึ่งใกล้จุดเกิดที่เรือเฟอร์รีเตอราตัย ปรีมา ขนาด 700 ตัน พลิกคว่ำและอับปาง ขณะบรรทุกผู้โดยสาร 267 ชีวิต หลังถูกคลื่นยักษ์ซัดถล่ม
“เจ้าหน้าที่กู้ภัย มัวแต่นั่งเฉยๆ เพื่อฆ่าเวลาและรอรับเงินเท่านั้น” อาเบ็ต ซึ่งมีญาติและเพื่อนบ้านถึง 63 คน อยู่ในรายชื่อผู้สูญหายกล่าว
“เมื่อวานนี้ (12) พวกเขาอ้างว่า สภาพอากาศเลวร้ายต้องยุติการค้นหา แต่ทำไมชาวประมงยังคงพยายามค้นหาผู้รอดชีวิต ทำไมทีมค้นหากลับไม่เจออะไรเลย”
ผู้ประท้วงบางคนถึงกับยอมลงขันจ้างเรือประมง 3 ลำ เพื่อตามหาญาติของตนเอง
อาเบ็ต บอกว่า “ทำไมรัฐบาลไม่จ่ายเงินให้ชาวประมง เพื่อเช่าเรือและตามหาพวกเขา”
ซีธ ปารันเต ซึ่งภรรยาและลูกน้อยวัยเพียง 10 เดือน อยู่ในรายชื่อผู้สูญหายด้วย กล่าวว่า “ผมวิตกกังวลอย่างหนัก และกลัวว่า ภรรยาและลูกจะเสียชีวิต นี่เข้าสู่วันที่ 4 แล้ว พวกเขาจะต้องหิว, เหนื่อยล้า และหนาวเหน็บ”
ตั้งแต่เกิดเหตุสลด กองทัพเรือและกองทัพอากาศยังคงช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่น เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต แต่ต้องยุติปฏิบัติการชั่วคราว เนื่องจากมีฝนตกหนักและคลื่นสูง
อย่างไรก็ตาม ผู้รอดชีวิตจำนวนมาก มีเรือประมงและเรือขนส่งสินค้ามาช่วยเอาไว้
ด้าน กระทรวงคมนาคมขนส่งของอินโดนีเซีย แย้งว่า “เจ้าหน้าที่แทบไม่พบศพผู้เสียชีวิต ดูเหมือนว่า ผู้โดยสารและลูกเรือส่วนใหญ่ติดอยู่ใต้ซากเรือที่อับปาง”
“เรือเฟอร์รีลำดังกล่าว เกิดอับปางเมื่อกลางดึก ขณะที่ผู้โดยสารกำลังนอนหลับพักผ่าน และเรือจมลงอย่างรวดเร็ว จนไม่มีทางที่ใครจะหนีรอดออกมาได้”