เอเอฟพี/เอเจนซี - อิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มดินแดนฉนวนกาซา เป็นวันที่สาม เมื่อวันจันทร์(29) ใน “สงครามเต็มพิกัด” ที่มุ่งหมายเล่นงานกลุ่มฮามาส ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 318 คน ในจำนวนนี้เป็นพลเรือนหลายสิบคน ทำให้ประเทศอาหรับและมุสลิมทั่วโลกพากันรุมประณามคัดค้าน
ขบวนรถถังของรัฐยิวยังได้เคลื่อนพลไปที่ชายแดนติดฉนวนกาซา และกองทัพอิสราเอลได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปกปิดทางทหาร ซึ่งในอดีตการเคลื่อนกำลังในลักษณะดังกล่าวมักตามมาด้วยปฏิบัติการภาคพื้นดิน
รัฐมนตรีกลาโหม เอฮุด บารัค ของอิสราเอล ยังแถลงว่า อิสราเอลกำลังอยู่ใน “สงครามเต็มพิกัดกับกลุ่มฮามาสและตัวแทนของพวกเขา” โดยที่เขาพูดย้ำถึงความเป็นไปได้ที่กองทัพยิวอาจเปิดการโจมตีภาคพื้นดิน
แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้ยุติความรุนแรง แต่อิสราเอลก็ยังไม่หยุดยิงถล่มเป้าหมาย แต่ยอมเปิดทางให้นำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปดินแดนของปาเลสไตน์ ซึ่งมีประชากร 1.5 ล้านคน ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบากโดยต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างประเทศเป็นหลัก
ส่วนกำลังทหารฝ่ายฮามาส ก็ยังไม่ยอมจำนนเช่นกัน โดยวานนี้ได้ยิงจรวดราว 20 ลูกเข้าใส่อิสราเอล มีชาวอาหรับเชื้อสายอิสราเอลคนหนึ่งเสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 8 คน ในระหว่างที่จรวดลูกหนึ่งตกลงมายังเขตก่อสร้างแห่งหนึ่งในเมืองแอชเคลอนทางภาคใต้ห่างจากตอนเหนือของฉนวนกาซา 13 กิโลเมตร
การโจมตีของอิสราเอลตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (27) เพื่อตอบโต้กองกำลังฮามาสของปาเลสไตน์ที่ยิงจรวด และปืนครกเข้าไปในอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 318 คนและบาดเจ็บอีกกว่า 1,400 คน
สำนักงานผู้อพยพปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติ รายงานว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด “เป็นพลเรือน 51 คน ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้หญิงรวมอยู่ด้วย” โดยในการโจมตีคืนแรกนั้น มีเด็กผู้หญิงพี่น้องกัน 4 คน อายุตั้งแต่ 1-12 ปีเสียชีวิตด้วย
ทางด้าน จีน และ ญี่ปุ่น ได้ร่วมมือกับนานาชาติ ซึ่งรวมทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงเช่นกัน
ในขณะที่กลุ่มฮามาส ก็กล่าวโทษประชาคมโลก ว่า ไม่ได้ทำอะไรเพื่อยุติการโจมตีครั้งนี้ และอิสราเอล “กำลังก่อเหตุสังหารหมู่ในขณะที่โลกทั้งโลกเฝ้าดู และไม่ได้กระดิกนิ้วทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดยั้งมัน” ฟอซี บาร์ฮัม โฆษกของกลุ่มฮามาส บอก
เขายังกล่าวอีกว่า กลุ่มฮามาส “ขอสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้การโจมตีครั้งนี้ด้วยปฏิบัติการพลีชีพ” ทั้งนี้ เขาหมายถึงการใช้ระเบิดฆ่าตัวตายในอิสราเอลซึ่งเป็นวิธีการที่ฮามาสใช้มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2005
ทั้งนี้ นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซาเมื่อวันเสาร์ กองกำลังกลุ่มฮามาสในเขตฉนวนกาซาได้ยิงจรวดและปืนครกกว่า 100 ลูก เข้าไปในเขตของชาวยิว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บอีกราว 20 คน
แม้อิสราเอลจะยอมเปิดด่าน เคเรม ชาลอม ทางใต้ของฉนวนกาซาในวันจันทร์ เพื่อให้รถบรรทุก 80 คัน ซึ่งขนยาและอาหารเข้าไปช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ได้ ทว่า ในวันอาทิตย์คณะรัฐมนตรีของอิสราเอลก็อนุมัติให้เรียกระดมกำลังทหารกองหนุน 6,500 นาย เข้าประจำการ
การโจมตีของอิสราเอลในครั้งนี้ ยังจุดชนวนให้มีผู้ออกมาประท้วงทั่วโลก ไม่ว่าจะในเมืองหลวงของประเทศในยุโรป ตุรกี อียิปต์ และ ซีเรีย ส่วนที่อิหร่าน ชาวอิหร่าน ในกรุงเตหะรานหลายพันคนพากันออกมาร้องประท้วงว่า “อิสราเอลจงพินาศ” และ “สหรัฐฯ จงพินาศ” และยังถือป้ายเรียกร้องให้ชาวอาหรับลุกขึ้นมาทำลายอิสราเอลด้วย
ทางด้าน ตุรกี ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรชั้นนำของอิสราเอลในโลกมุสลิม ได้แถลงวานนี้ว่า ขอยุติความพยายามในการจัดการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย เนื่องจากในสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นเวลานี้ ย่อมทำให้ไม่สามารถจัดการหารือเช่นนี้ขึ้นมาได้
ส่วนรัฐสภาของ จอร์แดน ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ประเทศอาหรับที่ยอมเซ็นสัญญาสันติภาพกับอิสราเอลนั้น ได้ออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้ “พิจารณาทบทวน” ความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับรัฐยิวแห่งนั้น
อนึ่ง การถล่มโจมตีกาซาของอิสราเอล ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลกดีดตัวสูงขึ้น โดยเมื่อถึง 11.43 น.ตามเวลาจีเอ็มที (ตรงกับ 18.43 น.เวลาเมืองไทย) สัญญาล่วงหน้าของน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ มีราคาเพิ่มสูงขึ้น 3.08 ดอลลาร์ อยู่ที่ 40.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยที่มีช่วงหนึ่งทะยานขึ้นไปอยู่ที่ 42.20 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ของลอนดอน ในช่วงเวลาเดียวกัน ก็เพิ่มขึ้น 3.23 ดอลลาร์ อยู่ที่ 41.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งวิ่งขึ้นไปถึง 43.18 ดอลลาร์