เอเจนซี/เอเอฟพี - อิสราเอลเปิดการโจมตีทางอากาศถล่มดินแดนฉนวนกาซา เป็นวันที่สองเมื่อวานนี้ (28) เพื่อเพิ่มแรงกดดันกลุ่มฮามาส รวมทั้งเตรียมพร้อมที่จะยกกำลังเข้ารุกรานทางบกอีกทางหนึ่งด้วย หลังจากที่ได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไปกว่า 300 คนแล้ว ในวันแรกของการโจมตี จนกลายเป็นวันที่นองเลือดที่สุดวันหนึ่งในรอบ 60 ปีแห่งความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ออกมาเรียกร้องอ่อยๆ ให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง
ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า การยิงถล่มครั้งนี้เป็นการตอบโต้กองกำลังกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซายิงจรวด และปืนครกเข้าใส่อิสราเอลเกือบทุกวันนับตั้งแต่สิ้นสุดข้อตกลงหยุดยิงเมื่อสัปดาห์ก่อน
อิสราเองยังระดมรถถังมาประจำอยู่ตรงชายขอบและทำท่าจะบุกเข้าไปในดินแดนแห่งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้หนึ่งกล่าวด้วยว่า คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี เอฮุด โอลเมิร์ต ยังมีมติหลังจากกาประชุมวานนี้ ให้ระดมทหารกองหนุนอีก 6,500 คน
“อิสราเอลจะยังคงดำเนินยุทธการนี้ต่อไป จนกว่าเราจะมีภาวะแวดล้อมใหม่ทางความมั่นคงในทางตอนใต้ เมื่อประชากรที่นั่นจะไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการก่อการร้าย และด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกระดมโจมตีด้วยจรวด” มาร์ก เรเกฟ โฆษกผู้หนึ่งของนายกฯโอลเมิร์ตบอก
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศโดยเข้าทำลายสำนักงานใหญ่ของสถานีโทรทัศน์อัล-อัคซา ของกลุ่มฮามาส ซึ่งยังคงสามารถกระจายสัญญาณมาจากสถานที่ลับแห่งหนึ่ง และฝ่ายอิสราเอลยังได้โจมตีศูนย์ฝึกทหารของฮามาสแห่งหนึ่งด้วย
ส่วนกองกำลังปาเลสไตน์นั้นก็ยังคงยิงจรวดประมาณ 80 ลูกข้ามพรมแดนไปยังอิสราเอล โดยจรวดลูกหนึ่งตกลงยังเขตปลอดทหารที่อยู่ลึกเข้าไปในอิสราเอลตอนใต้ราว 30 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย
ทางด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วานนี้ได้ออกคำแถลงที่ไม่มีข้อผูกพัน เรียกร้องให้ยุติความรุนแรง
นักวิเคราะห์ด้านการทหารของอิสราเอล กล่าวว่า การเปิดเกมรุกของอิสราเอลนั้นคงไม่ได้มีเป้าหมายที่จะเข้ายึดครองเขตฉนวนกาซา หรือทำลายรัฐบาลฮามาสในดินแดนดังกล่าว เพราะเป็นเป้าหมายที่สูงเกินไป และยังสุ่มเสี่ยงเกินไปในทางการเมืองในขณะที่จะมีการเลือกตั้งรัฐสภาอิสราเอลในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ปีหน้า
หลังจากที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอย่างหนักในวันเสาร์แล้ว พวกนักวิเคราะห์เหล่านี้ก็ยังอธิบายว่าอันที่จริงแล้วอิสราเอลต้องการเสริมสร้างความเข้มแข็งของอำนาจในการคุกคามและกดดันให้กลุ่มฮามาสหยุดสู้รบซึ่งจะทำให้หยุดยิงจรวดถล่มใส่กันและกันตามแนวชายแดนในระยะยาว
อิสราเอล ระบุว่า เครื่องบินรบของฝ่ายตนเข้าโจมตีในวันเสาร์ราว 100 ครั้ง ส่วนกองกำลังปาเลสไตน์ก็ยิงจรวดเข้าไปในอิสราเอลราว 90 ลูก มีชายชาวอิสราเอลเสียชีวิต 1 คน
หน่วยแพทย์ฉุกเฉินของปาเลสไตน์ ระบุวานนี้ ว่า ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไป 271 คน ภายในเวลา 24 ชั่วโมง หลังการโจมตีในวันเสาร์ ส่วนยอดผู้บาดเจ็บสูงกว่า 700 คน และเมื่อบวกกับผู้เสียชีวิตวานนี้ด้วย ก็เพิ่มขึ้นเป็น 286 คน
“ปาเลสไตน์ไม่เคยถูกสังหารหมู่อย่างเลวร้ายขนาดนี้” อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาส กล่าว และกลุ่มอิสลามิสต์ภายใต้การนำของเขาก็ประกาศจะล้างแค้น โดยจะใช้ระเบิดฆ่าตัวตายถล่มร้านอาหารและถนนหนทางต่างๆ ในอิสราเอลด้วย
ส่วนองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่างเกรงว่าปฏิบัติการของอิสราเอลอาจทำให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาซึ่งเป็นพื้นที่ปิดล้อมยากจนและมีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ 1.5 ล้านคน โดยครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่ยังชีพได้ด้วยความช่วยเหลือด้านอาหารจากองค์กรเหล่านี้
ทั้งนี้ กลุ่มฮามาส ระบุว่า ในการโจมตีเมื่อวันเสาร์เพียงวันเดียว มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 180 คน และมีผู้หญิงกับเด็กๆ เสียชีวิตอีก 15 คน นับเป็นยอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดภายในวันเดียว ตั้งแต่เกิดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ตั้งแต่ปี 1948 อันเป็นปีที่มีการก่อตั้งรัฐยิวขึ้นมา ส่วนกลุ่มฮามาสนั้น แม้จะชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2006 แต่ก็ถูกเมินเฉยจากโลกตะวันตกเพราะปฏิเสธการยุติใช้ความรุนแรงและไม่ยอมรับอิสราเอล
ด้าน ประธานาธิบดี มาหมุด อับบาส ของปาเลสไตน์ กล่าวว่า การกระทำของอิสราเอลถือเป็น “อาชญากรรม” และยังเรียกร้องให้ผู้นำโลกเข้าแทรกแซงเพื่อแก้ปัญหาครั้งนี้ด้วย