กรีซยังระอุ ผู้ประท้วงปะทะตำรวจหลายจุด

เอเอฟพี - เหตุปะทะหลายจุดระหว่างกลุ่มวัยรุ่นและเจ้าหน้าที่ตำรวจลากยาวเข้าสู่คืนวันอาทิตย์ (21) แล้ว รอบๆ วิทยาลัยเอเธนส์โพลีเทคนิคในเขตเอ็กซาร์เชีย ของกรีซ ที่ซึ่งเด็กชายวัย 15 ปีผู้หนึ่ง ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน จนลุกลามบานปลายสู่การจลาจลระดับชาติ

ผู้ชุมนุมจำนวนหลายร้อยคนรวมตัวกันที่เขตเอ็กซาร์เชีย เมื่อกลางดึกคืนวันเสาร์ (20) บริเวณจุดเกิดเหตุที่อเล็กซานดรอส กริโกปูลอส วัย 15 ปี ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตเมื่อต้นเดือนธันวาคม (6) เพื่อสำแดงพลังประท้วง ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มวัยรุ่นที่ยึดครองวิทยาลัยเอเธนส์โพลีเทคนิค

ผู้ชุมนุมระดมขว้างปาระเบิดเพลิงเข้าใส่กลุ่มตำรวจ ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งขว้างก้อนหิน และระเบิดขวดแก๊สโซลีนใส่ตำรวจ พร้อมทั้งจุดไฟเผาถังขยะ อันเป็นพฤติกรรมที่พบเห็นบ่อยครั้งในเขตเอ็กซาร์เชีย นับตั้งแต่เกิดเหตุสังหารเด็กชายคนดังกล่าว

ตำรวจยังปะทะกับผู้ประท้วงหลายๆ จุด เช่นบริเวณจตุรัสซินทักมา ภายหลังการชุมนุมต่อต้านการแบ่งแยกและกีดกันเชื้อชาติ

ในเขตเนฟิลาเดลเฟีย ชานกรุงเอเธนส์ ผู้ชุมนุมขว้างปาระเบิดขวดแก๊สโซลีนใส่โรงเรียนตำรวจ และวางเพลิงรถตำรวจ 6 คันที่จอดอยู่ใกล้ๆ แต่เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตำรวจบอก

นครหลวงเอเธนส์และเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ เกิดกระประท้วงแบบรายวัน จากชนวนความขัดแย้งที่ตำรวจยิงวัยรุ่นชายวัย 15 ปี เสียชีวิต มิหนำซ้ำ ยังได้เชื้อเพลิงชั้นดีจากความลำบากทางเศรษฐกิจที่ทวีขึ้นต่อเนื่อง คอยโหมกระพือความโกรธกริ้วของสาธารณชน

กลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งร่ำร้องให้ดำเนินการกับคดีการเสียชีวิตของกริโกปูลอสอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม ยังคงยึดครองโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ หลายร้อยแห่งทั่วกรีซ

ในวันเสาร์ (20) ตำรวจเยอรมันควบคุมตัวผู้ประท้วง 10 คน และบาดเจ็บ 4 ราย ระหว่างปะทะกับผู้ชุมนุม ซึ่งเดินขบวนในเมืองฮัมบูร์กของเยอรมนีเพื่อสนับสนุนการประท้วงในกรีซ เจ้าหน้าที่หลายคนกล่าว

รัฐบาลอนุรักษ์นิยมของกรีซ โดนวิพากษณ์วิจารณ์อย่างหนักจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น โดยสหภาพต่างๆ เตรียมเพิ่มแรงกดดันรัฐบาล ก่อนการลงมติเรื่องงบประมาณของรัฐสภาในวันนี้ (21)

ผู้ประท้วงโกรธกริ้วที่ตำรวจยิงใส่วัยรุ่นผู้หนึ่งจนเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อน (6) จนกลายเป็นชนวนให้เกิดการจลาจลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโหมลุกโชนจากการที่สาธารณชนสั่งสมความเคียดแค้นมานาน ทั้งจากกรณีอื้อฉาวทางการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า, อัตราการว่างงาน และความยากจนที่เพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ

ก่อนหน้านั้น (10) กลุ่มสหภาพต่างๆ นัดประท้วงหยุดงานครั้งใหญ่ทั่วประเทศ จนส่งผลให้กรีซอยู่ในสภาพชะงักงันทั้งประเทศ เที่ยวบินต่างๆ หยุดให้บริการ ธนาคาร และสถานศึกษาปิดทำการ รวมทั้งบริการด้านการรักษาพยาบาลก็ถูกจำกัดลดลง

ด้านพรรคสังคมนิยมฝ่ายค้าน เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี กอสตาส คารามานลิส ลาออกจากตำแหน่ง และจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยเมินเฉยกับท่าทีของผู้นำประเทศที่เรียกร้องให้เกิดความสามัคคีภายในชาติ ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ นับตั้งแต่สิ้นสุดการปกครองระบอบเผด็จการทหารในปี 1974