xs
xsm
sm
md
lg

โลกอาหรับประทับใจนักข่าวอิรักหลังสร้างวีรกรรมปารองเท้าใส่บุช

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักข่าวอิรักผู้สร้างวีรกรรม
เอเอฟพี - รัฐบาลอิรักเผชิญแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากโลกอาหรับ ให้ปล่อยตัวนักข่าวที่ก่อเหตุปารองเท้าใส่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในระหว่างการเยือนอำลาอิรักก่อนก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ โดยแม้ทางการอิรักมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องน่าละอาย แต่ประชาชนในโลกอาหรับต่างชื่นชมว่าเป็นของขวัญการอำลาในอุดมคติ ล่าสุดมีรายงานว่า นักข่าวผู้นี้บาดเจ็บถึงขั้นแขนและซี่โครงหัก

กลุ่มเพื่อนร่วมงานของมุนตาเซอร์ อัล-ไซดี ที่สถานีโทรทัศน์อิสระอัล-แบกแดดิอา ของอิรักแต่ตั้งสำนักงานอยู่ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ กล่าวว่า ไซดี "จงเกลียดจงชังอเมริกา" และได้วางแผนดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เพื่อตอบโต้บุคคลที่สั่งการทำสงครามในประเทศของเขา

"การปารองเท้าใส่บุชเป็นการจูบอำลาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมี... มันแสดงให้เห็นว่าชาวอิรักและอาหรับเกลียดบุชมากขนาดไหน" มูซา บาร์ฮูเมห์ บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ อัล-กาห์ด แห่งจอร์แดน ซึ่งมีแนวทางเป็นอิสระ แสดงทัศนะ

ขณะที่ โทรทัศน์ เอ็นทีวี ของเลบานอน ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นปรปักษ์ต่อสหรัฐฯ ได้เสนอรายงานข่าวเมื่อค่ำวันจันทร์ระบุว่า พร้อมที่จะว่าจ้างให้ไซดีมาทำงานด้วย โดยจะคิดเงินค่าจ้างให้ "นับตั้งแต่ขณะที่รองเท้าข้างแรกถูกขว้างออกไป"

ที่วอชิงตัน ทางการสหรัฐฯพยายามทำให้ไซดีถูกมองว่าเป็นเพียงพวกที่อยากเรียกร้องความสนใจ รอเบิร์ต วูด โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศบอกว่า "ไม่มีทางที่จะรู้ได้เลยว่าอะไรเป็นแรงขับส่วนตัวของแต่ละบุคคล แต่แน่นอนว่าเขาพยายามที่จะเรียกร้องความสนใจให้กับตนเอง"

วูดบอกอีกว่า "นี่เป็นเหตุการณ์เล็กๆ และเป็นมุมมองส่วนบุคคล แต่หากมองดูถึงทิศทางของเราในเรื่องอิรักขณะนี้แล้ว ถือว่าเป็นทิศทางที่ดีมากๆ ทีเดียว และเราหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไป"

นอกจากนั้น รัฐบาลอิรักก็แสดงความเห็นว่า การกระทำของไซดีนั้นเป็นเรื่อง "น่าละอาย" และเรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์อัล-แบกแดดิอาในกรุงไคโรออกมากล่าวคำขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่า อัล-แบกแดดิอา กลับออกมาเรียกร้องให้ทางการอิรักปล่อยตัวไซดีทันที หลังจากที่เขาถูกจับกุมตัวไว้โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด

สถานีโทรทัศน์อัล-แบกแดดิอาได้ออกแถลงการเรียกร้องให้ปล่อยตัวไวดีโดยระบุว่า "เพื่อให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งทางการอเมริกันสัญญาว่าจะมอบให้แก่ประชาชนชาวอิรัก" และเสริมว่า "มาตรการใดๆ ที่กระทำต่อมุนตาเซอร์จะถูกพิจารณาว่าเป็นการกระทำของระบอบเผด็จการ"

นอกจากนั้น คาลิล อัล-ดูไลมี อดีตทนายความของซัดดัม ฮุสเซน กล่าวว่าเขากำลังจัดทีมทนายเพื่อช่วยว่าความให้กับไซดี และขณะนี้มีทนายความราว 200 คนเสนอตัวทำคดีให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด รวมทั้งทนายชาวอเมริกันด้วย

"นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่สุดที่ชาวอิรักคนหนึ่งจะทำกับบุชได้ เขาเป็นอาชญากรทรราชที่ฆ่าชาวอิรักและอัฟกานิสถานไปถึงสองล้านคน" ดูไลมีกล่าว

"การสู้คดีให้กับไซดีจะใช้ข้อเท็จจริงที่สหรัฐฯ เข้ามายึดครองอิรัก การต่อต้านขัดขืนทุกวิถีทางจึงเป็นสิ่งที่ชอบธรรม รวมทั้งการปารองเท้าด้วย"

ส่วนท่าทีของชาวอิรักทั่วไปนั้น มีน้อยคนที่แสดงความเห็นใจบุช แต่ความเห็นต่อการกระทำของนักข่าวอิรักก็แตกต่างกันไป เช่นที่เมืองซาดร์ อันเป็นที่มั่นของกลุ่มชีอะห์สุดโต่ง มีผู้ประท้วงออกมาปารองเท้าใส่ยานพาหนะของทหารสหรัฐฯ ที่แล่นผ่านไป และที่เมืองนาจาฟก็มีชาวอิรักออกมาร้องตะโกนว่า "อเมริกาจงพังพินาศ" เช่นกัน

ทว่า แฮมซา มาห์ดี เจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่งในกรุงแบกแดด วัย 30 ปี กลับแสดงความเห็นว่า "ผมไม่ชอบบุช แต่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว มันดูไม่มีอารยธรรมเลย" เขาบอกอีกว่า "นักข่าวควรจะใช้ปากกาและกระดาษในการต่อสู้ ไม่ใช่ใช้รองเท้า"

ลูกค้าคนหนึ่งของมาห์ดีไม่เห็นด้วยและบอกว่า "ดิฉันสนับสนุนเขานะ ทุกคนควรสนับสนุนเขา คุณจำไม่ได้หรือว่าอเมริกันทำอะไรกับพวกเรา คุณลืมกันไปหมดแล้วหรือ"

ทั้งนี้ ทนายความชาวอิรักรายหนึ่งบอกว่าไซดีอาจถูกต้องติดคุกอย่างน้อย 2 ปี หากศาลพิพากษาว่ามีความผิดฐานกระทำการดูถูกแขกของประเทศ

ทางด้าน ดุร์กัม ไซดี น้องชายของนักข่าวนักปารองเท้าผู้นี้ บอกกับเอเอฟพีเมื่อวานนี้ว่า พี่ชายของเขาได้รับบาดเจ็บแขนข้างหนึ่งและกระดูกซี่โครงหลายซี่หัก นอกจากนั้นยังมีรอยแผลที่ตาและแขน โดยเวลานี้ถูกขังอยู่ในเขต "กรีนโซน" ที่มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่นในกรุงแบกแดด ภายใต้การควบคุมของ มาอัฟฟัก อัล รูไบอี ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของอิรัก แต่ดุร์กัมก็บอกไม่ได้ว่าพี่ชายของเขาบาดเจ็บระหว่างถูกจับกุมหลังขว้างรองเท้าใส่บุชแล้ว หรือระหว่างถูกคุมขัง
กำลังโหลดความคิดเห็น