เอเอฟพี – นักวิเคราะห์การเมืองไทยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี ชี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย ซึ่งจะเป็นผู้นำรัฐบาลผสม ที่เปราะบาง ด้วยเสียงไม่เด็ดขาดนั้น จะมีความสุขกับช่วงเวลาสงบได้ไม่นาน ก่อนที่ความตึงเครียดทางการเมืองจะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
นายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเสียงเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย ด้วยคะแนนเสียง ที่ไม่ทิ้งขาดคู่แข่งจากอดีตพรรครัฐบาลนัก โดยจะขึ้นบริหารประเทศ ที่กำลังแบ่งแยกเป็นสองฝักสองฝ่าย
ทั้งนี้ เก้าอี้ผู้นำประเทศของไทยได้ว่างลง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีเสียงข้างมากในรัฐสภา และห้าม นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ลงเล่นการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
“พรรคประชาธิปัตย์ต้องรู้ตัวว่าอำนาจของตนนั้นไม่เข้มแข็ง” ผศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวกับเอเอฟพี “เราจะเจอรัฐบาลผสมที่ไม่มีเสถียรภาพ เพราะสมาชิกสภาจะไม่เชื่อฟัง และจะจัดการพวกเขาได้ยาก”
นายอภิสิทธิ์ และรัฐบาลชุดใหม่ ที่มาจาก ส.ส.พรรคพลังประชาชนบางคน และพรรคเล็กพรรคน้อย ซึ่งเปลี่ยนข้างมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องเผชิญปัญหาหนักในการนำความมั่นคงกลับมาสู่ประเทศไทย หลังจากวิกฤตการเมืองที่วุ่นวายเป็นระยะเวลาร่วม 6 เดือน
ด้านนักลงทุน และผู้นำทางธุรกิจก็กำลังรอนโยบายเศรษฐกิจ ที่ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในประเทศ โดยมีการคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้าจะอยู่ที่ 2% เท่านั้น เนื่องมาจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล
ด้าน รองศาสตราจารย์ ใจ อึ๊งภากรณ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกคนชี้ว่า คำตัดสินยุบพรรคพลังประชาชนของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเสมือนรัฐประหารครั้งที่ 2 และเป็นชัยชนะเพียงชั่วคราวของฝ่ายต่อต้านทักษิณ
“พวกเขาชนะในรอบนี้ แต่วิกฤตยังไม่สิ้นสุด ฝ่ายต่อต้านทักษิณต้องการการลดพื้นที่ประชาธิปไตย และนี่จะยืดเยื้ออีกนานแค่ไหนก็ยังไม่สามารถบอกได้ แต่มันจะทำให้ประชาชนอีกหลายล้านคนโกรธเคือง” เขากล่าว
นอกจากนี้ ผศ.ดร.ฐิตินันท์ เสริมว่า “มีผู้คนจำนวนมากที่ไม่พอใจ และระงับความโกรธไว้ รวมถึงพวกที่หมดความเชื่อถือในประเทศไทย นั่นจะคุกรุ่นอยู่ภายใน ทั้งยังมีคลื่นใต้น้ำอีกมาก ซึ่งมันจะไม่ดีต่อการเมืองไทย และสังคมไทยด้วย”
ทั้งนี้ อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้เสนอทางออกหนึ่งว่า ให้ นายอภิสิทธิ์ บริหารประเทศในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อสร้างเสถียรภาพ ก่อนที่จะยุบสภา และจัดให้การมีการเลือกตั้งใหม่ แต่ทั้งนี้ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะสละตำแหน่งผู้นำประเทศที่รอคอยมานานได้
