เอเอฟพี - “ยูโรโซน” เตรียมลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน อันเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ในระหว่างการประชุมสภาธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) วันพฤหัสบดี(4) นี้ ที่กรุงบรัสเซลล์ โดยขณะนี้เหลือคำถามแค่ว่าอีซีบีจะหั่นดอกเบี้ยมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น
ในภาวะที่ยูโรโซน หรือบรรดาประเทศสมาชิกผู้ใช้เงินตราสกุลยูโร เข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มรูปแบบ และอัตราเงินเฟ้อควงสว่านลง ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จึงมีช่องทางเหลือเฟือในการลดต้นทุนการกู้ยืมในกลุ่มชาติสมาชิกที่จะเพิ่มเป็น 16 ประเทศ เมื่อสโลวะเกียเข้าร่วมกลุ่มในเดือนมกราคมศกหน้า
โฮลเกอร์ ชมิดดิง นักเศรษฐศาสตร์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา บอกว่า ความเป็นไปได้ที่จะมีการลดดอกเบี้ยมากกว่า 0.50% ไม่เคยชัดเจนเท่านี้มาก่อน
“ที่จริงแล้วต้องบอกว่า เราไม่เห็นเหตุผลที่จะมาต่อต้านการคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.75% เลยด้วยซ้ำ” ชมิดดิง สำทับ โดยการลดดอกเบี้ยถึงระดับดังกล่าวยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้มีการหารือกันเมื่อเดือนที่แล้วก็ตาม
ชมิดดิง ยังตั้งข้อสังเกตว่า บรรดาดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจชั้นนำล้วนตกต่ำทำสถิติ อัตราเงินเฟ้อดิ่งลง ขณะที่อัตราว่างงานทะยานขึ้นในยูโรโซน
ตลาดผิดหวังไปตามๆ กันตอนต้นเดือนพฤศจิกายน เมื่ออีซีบีลดดอกเบี้ยนโยบายลงแค่ 0.50% อยู่ที่ 3.25% หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศลดดอกเบี้ยแรงกว่าถึงสามเท่าตัว
โดยที่ก่อนหน้านั้น ทั้งอีซีบีและธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ต่างได้ร่วมกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางอีก 3 ประเทศ ลดดอกเบี้ยพร้อมกันคนละ 0.50% เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมมาแล้วรอบหนึ่ง
สำนักงานข้อมูลยูโรสแตท เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (28 พ.ย.) ว่า อัตราเงินเฟ้อที่อีซีบีพยายามควบคุมมาตลอด ได้ดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนในเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.1% จาก 3.2% ในเดือนตุลาคม ขณะที่ราคาน้ำมันทรุดฮวบ
ทว่า ก่อนหน้านี้ กรรมการหลายคนของอีซีบีหลายคน ย้ำว่า ไม่เป็นการฉลาดเลยที่จะลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป และการลดดอกเบี้ยลงมากๆ อาจทำให้ตลาดหวั่นวิตกว่าสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่เชื่อกัน
ทั้งนี้ ในวันพุธที่แล้ว (26) ขณะอยู่ในกรุงไคโร ฌอง-โคลด ทริเชต์ ประธานอีซีบี ได้ขจัดความไม่แน่นอนใดๆ โดยกล่าวชัดเจนว่า “เราพร้อมแล้วที่จะลดดอกเบี้ย”
วันต่อมา การสำรวจในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) 27 ชาติ พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจดิ่งทำสถิติต่ำสุดในรอบ 23 ปีในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนั้น อัตราว่างงานในยูโรโซน ซึ่งเป็นพวกประเทศอียูเฉพาะที่ใช้เงินสกุลยูโร ยังเพิ่มขึ้นเป็น 7.7% ในเดือนตุลาคม สูงสุดในรอบเกือบสองปี
แถมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของอียูที่ประกาศออกมาเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว มูลค่าประมาณ 200,000 ล้านยูโร ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก อาทิ มาร์โค แอนนันเซียตา นักเศรษฐศาสตร์ของยูนิเครดิตว่า เป็นการโฆษณาชวนเชื่อเสียส่วนใหญ่
ทั้งนี้ จะมีการประกาศตัวเลขคาดการณ์อัตราเติบโตของยูโรโซนในวันพฤหัสบดี(4) นี้ พร้อมกับตัวเลขประมาณการอัตราเงินเฟ้อที่ทำสถิติสูงสุดที่ 4.0% เมื่อเดือนกรกฎาคม แต่ขณะนี้ลดลงอย่างรวดเร็ว กระทั่ง ออเรลิโอ มักการิโน จากยูนิเครดิต บอกว่าทำให้เริ่มมีการพูดกันแล้วว่ายูโรโซนอาจเผชิญภาวะเงินฝืดในปีหน้าด้วยซ้ำ
แม้ อีซีบี ยืนยันว่า สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่มีแนวโน้มเป็นไปได้ แต่ธนาคารก็เปิดช่องให้ตัวเองสำหรับการใช้มาตรการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี เจนนิเฟอร์ แมกคีโอน นักเศรษฐศาสตร์ของแคปิตอล อิโคโนมิกส์ ตั้งข้อสังเกตว่าอย่างน้อย ก็ยังมี อีวาลด์ โนวอตนี ผู้เป็นหนึ่งในสมาชิกสภาอีซีบี ที่ยังคงออกมาเตือนให้อีซีบีดำเนินการอย่างระมัดระวัง และระงับ “การปล่อยกระสุน” ในขณะนี้
ถึงแม้ตัวแมกคีโอน เชื่อว่า อีซีบีจะปรับลดการคาดการณ์ทั้งภาวะการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อ
สำหรับทริเชต์นั้นอาจถึงขั้นยอมรับว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มติดลบในปีหน้า หลังจากหดตัวในไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ ตรงตามนิยามทางเทคนิคของภาวะถดถอย
และก็อาจเป็นไปได้ที่ประธานอีซีบี จะเรียกร้องให้รัฐบาลยูโรโซนงัดมาตรการต่างๆ ออกมารับมือสิ่งที่ดูเหมือนเป็นเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ รวมถึงอาจกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ลดดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วแก่ภาคธุรกิจและครัวเรือน
