รอยเตอร์ - สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ซึ่งชุมนุมประท้วงอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ไม่สะทกสะท้านกับเหตุระเบิดรุนแรง เมื่อเช้าวันนี้ (20) แม้จะมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน พร้อมประกาศกร้าวจะปักหลักชุมนุมต่อไปเพื่อขับไล่รัฐบาล
รอยเตอร์ กล่าวว่า เพียงไม่กี่นาที หลังระเบิดดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดชนิดเอ็ม 79 ตกจากหลังคากันสาดลงมาใส่ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่ง ซึ่งกำลังหลับใหลเมื่อเวลา 03.30 น.สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ยังคงบันทึกภาพขณะที่ผู้ชุมนุมอีกส่วนยังร้องเล่นเต้นรำอยู่ห่างจากเวทีปราศรัยเพียงไม่กี่เมตร
อย่างไรก็ตาม เหตุระเบิดวันนี้ (20) ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้ว และยังเป็นการโจมตีกลุ่มพธม.ครั้งร้ายแรงที่สุด กลับยิ่งดึงดูดให้มวลชนหลั่งไหลเข้ายังทำเนียบรัฐบาลยิ่งขึ้น เพื่อมาสมทบกับผู้ที่ปักหลักประท้วงอย่างไม่ย่อท้อ
“พอฉันได้ยินว่ามีคนเสียชีวิต ฉันกับเพื่อนๆ จึงตัดสินใจเดินทางมาสมทบผู้ที่ชุมนุมอยู่ที่นี่ เพื่อขับไล่รัฐบาล” หญิงสาว อายุราว 30 ปี ในชุดภูมิฐานผู้หนึ่งกล่าว
ขณะที่ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ อายุราว 50 ปี ผู้หนึ่ง ซึ่งไม่ได้กลับบ้านไปนอนพักเลยนับตั้งแต่เกิดเหตุระเบิด กล่าวว่า ผมจะไม่กลับบ้านแล้ว
“ผมเคยรู้สึกกลัว เมื่อระเบิดครั้งแรก หรือครั้งที่สอง ถูกขว้างใส่พวกเรา แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจการข่มขู่เหล่านั้นอีกแล้ว” เขากล่าว
รอยเตอร์ รายงานว่า ผลสำรวจความเห็นหลายสำนัก เผยให้เห็นความเบื่อหน่ายของสาธารณชนในการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยอ้างว่ามีสาเหตุ เนื่องมาจากในตอนแรกพันธมิตรฯไม่ยอมเปิดเส้นทางเสด็จฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนมาก ประกาศจะปักหลังชุมนุมประะท้วงต่อไป เพื่อต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ขณะที่อีกหลายคน กล่าวว่า พร้อมแล้วที่จะสละชีวิตเพื่อปกป้อง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ตายที่นี่ ดีเสียกว่าตายด้วยอุบัติเหตุข้างถนน” หญิงวัย 40 ปีผู้หนึ่งจากจังหวัดตรัง กล่าว