เอเจนซี/เอเอฟพี - ธนาคารกลางญี่ปุ่นลงมติด้วยคะแนนเสียงคู่คี่มากเมื่อวานนี้ (31) ลดอัตราดอกเบี้ยสำคัญของตนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ภายใต้แรงกดดันของรัฐบาลเพื่อให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับรัฐบาลทั่วโลก ในการรับมือกับวิกฤตการเงินครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 80 ปี
สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (บีโอเจ) ออกเสียงในประเด็นการลดอัตราดอกเบี้ยนี้ ด้วยคะแนนเท่ากันคือ 4 ต่อ 4 ทำให้ประธานคือผู้ว่าการบีโอเจต้องตัดสินชี้ขาด ด้วยการโหวตเห็นด้วยให้ลดลดอัตราดอกเบี้ยลงมาเหลือ 0.3% จากระดับ 0.5% แม้ว่าจะตระหนักดีกว่าการลดอัตราจะแทบไม่ส่งผลอะไรต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ที่กำลังได้รับผลกระทบมากขึ้นเรื่อยๆ จากวิกฤตการเงินโลกในขณะนี้
นอกจากนั้น ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังได้ลดประมาณการเศรษฐกิจในอนาคตลงโดยให้เหตุว่าปัญหาในตลาดโลกกำลังเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น และเศรษฐกิจโลกกำลังจะเข้าสู่สภาวะอันย่ำแย่ในระยะต่อไป
ก่อนหน้านี้ ตลาดพากันคาดว่าบีโอเจจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และยูจิ ไซโตะ หัวหน้าแผนกค้าเงินตราต่างประเทศ ของโซซิเยเต้ เจเนราล ในโตเกียว กล่าวว่า การที่พวกผู้บริหารระดับท็อปของธนาคารกลางเกิดเสียงแตกเช่นนี้ บวกกับการลดดอกเบี้ยลงน้อยกว่าที่ตลาดคาดคิด อาจจะกลายเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดๆ ต่อตลาดก็เป็นได้
"การตัดสินใจในวันนี้อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจในหมู่นักลงทุนต่างประเทศว่าธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถที่จะดำเนินการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยได้อย่างราบรื่น" เขากล่าว
นอกจากนี้ มีแรงกดดันอย่างชัดเจนจากภาคการเมืองให้ธนาคารต้องตัดสินใจเช่นนี้ด้วย รัฐมนตรีคลัง โชอิชิ นาคากาวะกล่าวในช่วงเช้าวานว่า ธนาคารกลางจะทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิด
"ผมต้องการให้รัฐบาลและบีโอเจร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการบริหารจัดการเชิงนโยบาย และมีความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดในปัจจุบัน" เขากล่าวกับบรรดานักข่าว
การลดอัตราดอกเบี้ยของบีโอเจคราวนี้มีขึ้น 2 วันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดอัตราดอกเบี้ยเฟดฟันด์เรตลง 0.5% ให้มายืนที่ 1%
นอกจากนั้น จีน ฮ่องกง และไต้หวันต่างก็ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงมาแล้วในสัปดาห์นี้ ส่วนธนาคารกลางยุโรปและออสเตรเลียคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงสัปดาห์หน้า ท่ามกลางความอ่อนตัวของเศรษฐกิจขนาดใหญ่ต่างๆ
"พายุใหญ่ที่ 100 ปีมี 1 ครั้งนั้นกำลังพัดกระหน่ำ" นายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ ของญี่ปุ่น กล่าวในวันพฤหัสบดี (30) ขณะที่เขาแถลงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมูลค่ายอดรวม 277,000 ล้านดอลลาร์ โดยนับเป็นแผนกระตุ้นแผนที่ 2 แล้วในรอบเวลาเพียง 2 เดือน
ทางด้าน มาซากิ ชิราคาวะ ผู้ว่าการบีโอเจ แถลงวานนี้ว่า การตัดสินใจลดดอกเบี้ยคราวนี้ เกิดขึ้นจากการที่ "สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินต่างมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างใหญ่หลวงในรอบหนึ่งเดือนครึ่งที่ผ่านมา" นอกจากนั้นเขาอธิบายว่า 4 เสียงที่ไม่เห็นด้วยกับการลดดอกเบี้ยลง 0.2% นั้น มี 3 คนต้องการให้ลด 0.25% และที่ไม่ต้องการให้ลดเลยมีเพียงคนเดียว ดังนั้น ภายในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลาง จึงไม่ได้มีการแตกแยกมากมายอะไรอย่างที่มีผู้ตีความกัน
ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของบีโอเจ ตลาดทุนและการเงินของญี่ปุ่นก็ผันผวนอย่างรุนแรง ดัชนีนิกเกอิดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปีในสัปดาห์นี้และค่าเงินเยนก็แข็งค่าต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯสูงสุดในรอบ 13 ปี
หลังจากมีการประกาศการลดดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเกือบครึ่งเยนมาอยู่ที่ 98 เยนต่อ 1 ดอลลาร์ ส่วนตลาดอนุพันธ์ฟิวเจอร์สของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (เจจีบี) ก็ลดระดับการขาดทุนลง โดยฟิวเจอร์สเจจีบีสิ้นสุดสัญญาในเดือนธันวาคม ลดการขาดทุนลงจาก 137.90 จากราว 137.07
ขณะที่ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิปิดลดต่ำลง 5.0% เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการลดดอกเบี้ยคราวนี้แทบไม่มีผลกระทบอะไรในทางเป็นจริง จึงมุ่งเทขายทำกำไรจากการที่หุ้นพุ่งทะยานแรงมา 1-2 แล้วมากกว่า
นักวิเคราะห์ มองว่า การตัดสินใจลดดอกเบี้ยของบีโอเจ อาจจะมาจากอัตราเงินเฟ้อรอบปีที่ลดลงมาอยู่ที่ 2.3% เพราะราคาน้ำมันที่ดิ่งลงอย่างมากจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกรกฎาคม
ก่อนหน้านี้ บีโอเจแสดงท่าทีลังเลในการเข้าร่วมกับนานาชาติในการบรรเทาภาวะขาดแคลนสภาพคล่องโดยการลดอัตราดอกเบี้ย เพราะเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% ก็ถือว่าต่ำมากแล้ว