เอเอฟพี – สื่อต่างประเทศยังคงเกาะติดสถานการณ์ด้านหน้าอาคารรัฐสภาอย่างใกล้ชิด ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปิดล้อมทางเข้าออก จนทำให้บรรดารัฐมนตรีไม่สามารถเดินทางออกจากรัฐสภาได้ ถึงขั้นนายกฯ ของไทยต้องปีนรั้วเข้าไปในพระที่นั่งวิมานเมฆเพื่อหนีกลุ่มผู้ชุมนุมในที่สุด
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า หลังตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมด้านหน้าอาคารรัฐสภาในช่วงเช้า จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับร้อยคน พร้อมกับเคลียร์ถนนเพื่อให้รถของบรรดา ส.ส.และ ส.ว.ผ่านเข้าไปยังสภาแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมได้กลับมารวมตัวใหม่อีกครั้ง จนกระทั่งการประชุมสภาเสร็จสิ้นลงเมื่อช่วงเที่ยง แต่ปรากฏว่าบรรดา ส.ส.และ ส.ว.ไม่สามารถเดินทางออกจากอาคารรัฐสภาได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปิดล้อมทางเข้าออกอย่างต่อเนื่อง
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กล่าวกับเอเอฟพีว่า ขณะนี้คงต้องรอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
“ผมมองว่าเป็นเรื่องยากที่จะออกจากสภาในตอนนี้ แต่แน่นอนที่เราจะต้องออกไป อย่างไรก็ตามคงต้องรอให้กลุ่มผู้ชุมนุมสงบลงมากกว่านี้” นายสมศักดิ์กล่าว
ขณะที่ความพยายามของบรรดารัฐมนตรีและ ส.ส.ในการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณทางเข้าด้านหน้าอาคารรัฐสภา ประสบความล้มเหลว
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพี ซึ่งอยู่ในอาคารรัฐสภา รายงานว่า บรรดา ส.ส.ต่างถอดเสื้อสูทออก เนื่องจากเครื่องปรับอากาศในสภาเริ่มไม่ทำงาน ขณะที่น้ำสะอาดเริ่มมีใช้น้อยลงเช่นกัน
ล่าสุดมีรายงานว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และผู้ช่วยอีก 5 คน ได้ปีนรั้วเข้าไปยังพระที่นั่งวิมานเมฆ ก่อนที่จะมีเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจบินมารับนายสมชายไปส่งยังกองบัญชาการกองทัพไทยแล้ว
ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ปักหลักชุมนุมประท้วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจความพยายามของพรรคพลังประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งขณะนี้กำลังลี้ภัยอยู่ในประเทศอังกฤษ