เอเอฟพี - เกิดเหตุไฟไหม้ร้านวิดีโอซึ่งเปิดให้ลูกค้านั่งดูหนังในร้านได้ตลอดคืนในเมืองโอซากาของญี่ปุ่น เมื่อช่วงเช้าตรู่วันพุธ (30) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 10 คน ขณะที่ตำรวจสามารถจับกุมมือลอบวางเพลิงได้แล้ว
เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ร้านวิดีโอที่มีชื่อว่า แคทส์ ซึ่งภายในร้านแบ่งเป็นห้องเล็กๆ ให้ลูกค้านั่งดูวิดีโอถึง 32 ห้อง รวมถึงมีอาหาร และหนังหลากหลายประเภท ทั้งหนังสำหรับผู้ใหญ่ และหนังทั่วไป ไว้คอยบริการลูกค้าที่ต้องการสถานที่พักผ่อนราคาถูกยามค่ำคืน โดยคิดค่าดูหนังตลอดคืนตั้งแต่เวลา 23.00-10.00 น.เพียง 1,400 เยน (478 บาท) ซึ่งถูกกว่าค่าเช่าห้องพักของโรงแรมทั่วไปในใจกลางเมือง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้เมื่อเวลา 03.00 น.(01.00 น.ตามเวลาในไทย) จึงรีบรุดไปยังจุดเกิดเหตุซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารสูง 7 ชั้น ใกล้กับย่านสถานบันเทิงนัมบาในเมืองโอซากา ทางตะวันตกของญี่ปุ่น
“มีผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ 15 ราย ทั้งหมดเป็นชาย และเป็นลูกค้าของร้านวิดีโอดังกล่าว ส่วนใหญ่สำลักควันจนเสียชีวิต ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 10 คน เป็นชาย 9 คน บางคนอาศัยอยู่บนชั้นบนของตัวอาคาร และหญิง 1 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในอาคารติดกัน ซึ่งในจำนวนนี้ 4 คนมีอาการสาหัส” ทากาชิ อิชิดะ เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงกล่าว
สื่อญี่ปุ่น รายงานว่า ตำรวจกำลังเร่งสอบปากคำลูกค้าคนหนึ่งของร้านวิดีโอที่รอดชีวิต ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า ได้จุดบุหรี่สูบ ก่อนที่จะเผลอหลับไปในห้องดูวิดีโอห้องหนึ่ง
“ผมได้กลิ่นไม้ขีดถูกเผาตอนที่ผมตื่นขึ้นมา และเมื่อผมเปิดประตูออกไปก็เห็นเปลวไฟและควันเต็มไปหมด” ลูกค้าคนเดิมกล่าว
ขณะที่ลูกค้าอีกคนหนึ่งของร้าน กล่าวกับสำนักข่าวจิจิเพรสว่า ร้านวิดีโอดังกล่าวไม่มีไฟหรือทางออกฉุกเฉิน รวมถึงไม่มีพนักงานของร้านมาช่วยนำลูกค้าออกจากร้านแต่อย่างใด
“ผมคิดว่าคนที่กำลังหลับสนิทไม่น่าที่จะหนีออกมาทัน” ผู้รอดชีวิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด โฆษกตำรวจเมืองโอซากา ได้ออกมาระบุว่า สามารถจับกุมคาซูฮิโระ โอกาวะ วัย 46 ปี ชายว่างงานคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้วางเพลิงร้านวิดีโอดังกล่าวได้แล้ว หลังโอกาวะยอมรับว่าได้จุดไฟเผาหนังสือพิมพ์ในห้องดูวิดีโอห้องหนึ่ง ก่อนที่จะไฟจะลามไปยังห้องอื่นๆ จนเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในที่สุด
เมื่อปี 2001 ญี่ปุ่นเคยเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในย่านคาบูกิโชะ ซึ่งเป็นแหล่งสถานบันเทิงชื่อดังในกรุงโตเกียว ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตมากถึง 40 ราย