xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าพ่อเทกซัสยันเก็งกำไรน้ำมันผิด ทำเอาขาดทุนถึง $1 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที บูน พิคเค่นส์
เอเจนซี - ที บูน พิคเคนส์ เจ้าพ่อธุรกิจพลังงานแห่งเทกซัส ให้สัมภาษณ์ยืนยันเมื่อวันพุธ (24) ว่า เขาแค่ตัดสินใจผิดพลาดไปเล็กน้อย แต่มันทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ด้านน้ำมันของเขาต้องขาดทุนถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อช่วงที่ราคาน้ำมันดิ่งลงรุนแรง

“เรื่องมันก็เล็กน้อยมาก เราก็แค่เลี้ยวผิด แต่เพราะกองทุนเรามีขนาดใหญ่มาก ความผิดพลาดนิดเดียวก็ส่งผลเสียหายได้มหาศาล” พิคเคนส์ กล่าวในงานการสัมมนา “เส้นทางสู่ความมั่งคั่ง” ที่นครนิวยอร์ก

อย่างไรก็ตาม มือเก่าโชกโชนในอุตสาหกรรมพลังงานอย่าง พิคเคนส์ ซึ่งได้รับเชิญไปปรากฏตัวทั่วประเทศ รวมทั้งเวลานี้เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนการรณรงค์โฆษณาพลังงานที่นำมาใช้ใหม่ได้บอกกับรอยเตอร์ว่า บริษัทเพื่อการลงทุนของเขา ที่ชื่อว่า บีพี แคปิตอล แอลแอลซี ซึ่งประสบการขาดทุนดังกล่าว ไม่ได้มีการแตกตื่นตกใจอะไร

นอกจากนั้น เขาก็ไม่ให้ความสนใจแก่พวกเก็งกำไรในตลาด ที่ถูกกำลังถูกหลายฝ่ายมองว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงอย่างรวดเร็ว

“เราไม่ใช่พวกตื่นตูมง่ายๆ เรานะไม่ชอบสภาพที่เป็นอยู่หรอก เพราะตอนนี้มีแบงก์ดอลลาร์ร่วงโปรยปรายราวสายฝน แต่เรากลับต้องเอามือซุกกระเป๋า เราควรจะต้องมีสภาพคล่องให้มากกว่านี้ และเตรียมพร้อมที่จะตักน้ำตอนมันกำลังขึ้น อย่างที่บัฟเฟตต์ทำไปนั้นถูกที่ถูกเวลาจริงๆ” พิคเคนส์ กล่าวอย่างเสียดาย

ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร(23) บริษัท เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ ของอภิมหาเศรษฐีนักลงทุน วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประกาศเข้าลงทุนในโกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของวอลล์สตรีทเป็นมูลค่าถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ ส่งสัญญาณให้กับตลาดว่าราคาหุ้นของสถาบันการเงินที่กำลังประสบปัญหาอาจจะถูกเกือบถึงที่สุดแล้วก็ได้

พิคเคนส์ ซึ่งเขียนหนังสือเบสต์เซลเลอร์ เรื่อง “The First Billion Is the Hardest” (1 พันล้านแรกนั้นยากที่สุด) กล่าวว่ายังมีกองทุนเพื่อการลงทุนภาคเอกชนที่มีขนาดเล็กกว่าของเขาอีกกองทุนหนึ่ง ซึ่งเน้นที่ตลาดโภคภัณฑ์เป็นพิเศษ ก็กำลังประสบการขาดทุนหนักเหมือนกัน อันเป็นการยืนยันข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล ที่บอกว่า กองทุนนี้มีสินทรัพย์ลดฮวบลง 84% เมื่อสิ้นเดือนสิงหาคม และโดยส่วนตัวพิคเคนส์เองก็ขาดทุนไปถึง 270 ล้านดอลลาร์

“นั่นเป็นช่วงที่เราขาดทุน” พิคเคนส์ บอก “กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ ก็คือ กองทุนเพื่อการลงทุนของภาคเอกชนแบบหนึ่ง และกองทุนพวกนี้ก็กวาดเงินต่อปีราว 300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งก็แปลว่าเราทำเงินให้คนซื้อหน่วยลงทุนได้ และกองทุนของเราก็แจกจ่ายกำไรไปแล้วถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นผู้คนก็จึงไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์นี้เท่าไรนัก”

ราคาน้ำมันนั้นกำลังลดลงมา 27.6% จากระดับ 147.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อันเป็นระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ แต่กระนั้นก็ยังแพงกว่าราคาเมื่อปีที่แล้วราว 11.2%

ความสนใจของพิคเคนส์ที่ให้แก่พลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างเช่น ลม หรือ แสงอาทิตย์ ทำให้เขาได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเข้าใกล้โค้งสุดท้ายเข้าไปในทุกที

พิคเคนส์ไม่เชื่อว่า ทั้งบารัค โอบามา จากเดโมแครต และจอห์น แมคเคน จากรีพับลิกันจะมีแผนปฏิรูปโครงการพลังงานของสหรัฐฯ อย่างจริงจัง เพื่อให้คนอเมริกันใช้พลังงานนำเข้าให้น้อยลง

“ผมไม่เชื่อเลยว่าพวกเขามีนโยบายเกี่ยวกับพลังงานที่ดี ๆ ผมอยากเห็นแผนการที่จะมาลดการพึ่งพาพลังงานนำเข้า...และหากว่าเราต้องพึ่งพาการนำเข้าต่อไป ในช่วงเวลา 10 ปีเราอาจจะต้องนำเข้าพลังงานถึง 75% และต้องจ่ายเงินราว 300 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล”

เขาบอกอีกว่า การขยายการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งของสหรัฐฯ หรือแม้แต่การพึ่งพาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากมลรัฐอะแลสกา ก็ไม่ช่วยแก้ไขปัญหาด้านพลังงานไปได้ เพราะสหรัฐฯ ต้องการน้ำมันถึงวันละ 2 ล้านบาร์เรล และอะแลสกาคงไม่สามารถผลิตได้มากขนาดนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น