xs
xsm
sm
md
lg

"ทองคำ" ขึ้นพรวดจากวิกฤตการเงินโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทองคำแท่ง
เอเอฟพี - ทองคำในตลาดโลกมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ทองคำมีสถานะเป็นที่หลบภัยอันแสนจะปลอดภัยในเวลาที่เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดลงต่อเนื่องตลอดหลายวันที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะระส่ำระส่ายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตลาดการเงินสหรัฐฯ หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจที่เคยยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 4 ของวอลล์สตรีท ยื่นเรื่องขอความคุ้มครองตามกฎหมายล้มละลาย ขณะที่เมอริลลินช์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ และธนาคารเอชบีโอเอสของอังกฤษถูกเทกโอเวอร์ ตลอดจนการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปล่อยเงินกู้ก้อนโตมูลค่า 85,000 ล้านดอลลาร์ให้บริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ที่กำลังซวดเซอย่างหนัก

ราคาทองคำทะยานขึ้นถึง 85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 11 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันพุธ (17) โดยถือเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 28 ปีที่ผ่านมา

"ทองคำมีราคาทะยานขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวในระยะเวลานับตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ทองคำเป็นตลาดซื้อขายซึ่งเป็นที่หลบภัยอันแสนจะปลอดภัยยิ่งขึ้นเรื่อยๆ " เจมส์ มัวร์ จากเดอะบูลเลียนดอตคอมกล่าว

ราคาทองคำขึ้นมาอยู่ที่ 863 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อช่วงปลายการซื้อขายที่ลอนดอนในวันพฤหัสบดี (18) ทะยานขึ้นจากราคาเมื่อ 24 ชั่วโมงก่อนที่ 813 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อย่างไรก็ตาม ทองคำซึ่งใช้กันทั้งในวงการอัญมณี,ทันตกรรม และภาคอิเล็กทรอนิกส์ขณะนี้ ยังคงต่ำกว่าสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,032.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันที่ 17 มีนาคม เพียง 4 วันหลังจากพุ่งทะลุ 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ ทองคำยังสร้างความฮือฮาทั่วโลกอีกครั้งเมื่อช่วงต้นปี หลังจากบริษัทที่ปรึกษาด้านทองคำจีเอฟเอ็มเอสออกมาเปิดเผยว่า ในปี 2007 จีนเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้าแอฟริกาใต้ ที่ผูกขาดตำแหน่งต่อเนื่องยาวนานถึง 100 ปี

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17) จีเอฟเอ็มเอส ทำนายว่า เร็ววันนี้ราคาทองคำอาจทะยานขึ้นถึง 950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่น่าจะร้อนแรงถึงขั้นทำลายสถิติสูงสุดเมื่อเดือนมีนาคม

"ผมไม่แปลกใจเลย ถ้าเราจะได้เห็นธนาคารอีกซักแห่งหรือ 2 แห่งล้มลงใน 2-3 เดือนข้างหน้า กอปรกับการที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกเรื่อยๆ เราจะเห็นราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาอยู่เหนือ 900 ดอลลาร์หรืออาจจะ 950 ดอลลาร์"ฟิลิป คลาปวิจค์ ประธานบริหารของจีเอฟเอ็มเอสกล่าวในรายงาน "การสำรวจทองคำ" ฉบับล่าสุดของบริษัท

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ราคาทองคำได้ร่วงลงต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ความต้องการทองคำลงน้อยลง อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจทั่วโลกเติบโตช้า

แต่ขณะนี้ราคาทองคำกำลังดีดกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากบรรดานักลงทุนมองว่า ทองคำมีสถานะเป็นเครื่องป้องกันภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ สืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งลิ่วในหลายประเทศ

ในช่วงการซื้อขายระหว่างวันเมื่อวันพฤหัสบดี (18) ราคาน้ำมันขยับขึ้นเหนือ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนจะขยับลงมาสู่ระดับ 97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ภายหลังจากธนาคารกลางชั้นนำทั่วโลกประกาศทุ่มเงินก้อนมหึมาอัดฉีดสภาพคล่องในตลาดการเงิน ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ ดังเช่นน้ำมัน ทองคำ ซึ่งซื้อขายกันด้วยเงินดอลลาร์ มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือเงินสกุลที่แข็งกว่าดอลลาร์ ส่งผลให้ดีมานด์ทองคำเพิ่มสูงขึ้น

"เราคาดว่าปัจจัยต่างๆ อาทิ ความหวาดผวาในตลาดการเงินทั่วโลก,การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ,การเก็งกำไรค่าเงินดอลลาร์ และความกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ น่าจะดำเนินอยู่ต่อไป อันจะทำให้นักลงทุนมุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้น" บรรดานักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์สแคปิตอลเขียนในบทวิจัยสำหรับลูกค้า

ราคาทองคำทะยานพรวดพราดสู่สถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อช่วงต้นปี ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากปัญหาซัปพลายในแอฟริกาใต้ หลังจากต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว เมื่อคนงานเหมืองชุมนุมต่อต้านเงื่อนไขการทำงานที่ไม่ปลอดภัย ตลอดจนปัญหาไฟดับที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น