เอเอฟพี - คิมจองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ฟื้นตัวหลังเข้ารับผ่าตัดเพื่อรักษาโรคหลอดเลือดสมอง จนสามารถแปรงฟันได้ด้วยตนเองแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้เปิดเผยวันนี้ (12)
รายงานข่าวกรณีคิมเข้ารับผ่าตัดสมองเมื่อเดือนที่ผ่านมา มีความไม่แน่นอน ขณะที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ลีเมียงบัค ได้สั่งการเตรียมพร้อมเพื่อลดความสับสนวุ่นวาย หากเกิดการเปลี่ยนแปลงในเหตุการณ์ทางการเมืองของเกาเหลีเหนือ
เจ้าหน้าที่รัฐบาลในกรุงโซล ย้ำว่า ผู้นำโสมแดงวัย 66 ปี ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และอาการไม่น่าเป็นห่วง แต่รายงานข่าวจากสื่อมวลชน และ ส.ส.รายหนึ่งได้พูดถึงขั้นว่าเขาเป็นอัมพาตและมีอาการชักกระตุก
“เขาฟื้นตัวได้เพียงพอที่จะแปรงฟันได้ด้วยตนเองแล้ว” เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวยอนฮับ “อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีใต้ยังคงจับตาดูสุขภาพของคิมอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงสถานการณ์อื่นๆ ในเกาหลีเหนือ ในความคาดหมายต่อสถานการณ์ฉุกเฉินที่นั่น”
เจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวยอนฮับว่า คิมล้มป่วยเนื่องด้วยเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตันและมีความเป็นไปได้ว่าเส้นเลือดในสมองของเขาแตก ขณะที่ ส.ส.ชิง อุย-วา ให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุแห่งหนึ่ง บอกว่า เขาคิดว่าอาการป่วยของคิม อาจถึงขั้นอวัยวะบางส่วนด้านหนึ่งเป็นอัมพาตเลยทีเดียว
ด้านหนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบ รายงานว่า คิมมีอาการชักกระตุก และเจ้าหน้าที่ของจีน เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถบริหารประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ได้แจ้งกับรัฐสภาว่า คิมยังสามารถบริหารประเทศได้ แม้ยังไม่พร้อมที่จะทำกิจกรรมสาธารณะ แต่สามารถพูดได้โดยไม่ติดขัด
หน่วยข่าวกรองโสมขาวยังเชื่อว่า ไม่น่าเกิดช่องว่างในการปกครองเกาหลีเหนือ เนื่องจากคิมสามารถฟื้นตัว และหายเป็นปกติได้
หนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูตในจีนว่า แม้ว่าเขากำลังดีขึ้นเรื่อยๆ แต่อาการชักทำให้เขาไม่สามารถไปปรากฏตัว ณ ขบวนพาเหรดฉลองครบรอบ 60 ปีเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร (9)
สื่อมวลชนฉบับนี้ อ้างด้วยว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนที่เข้าพบคิมในกรุงเปียงยางก่อนวันฉลองก่อตั้งประเทศ รายงานอาการของผู้นำเกาหลีเหนือกลับไปยังทางการจีน โดยบอกว่าความสามารถทางสมอง และการพูด ของเขาไม่ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวกรองของจีน คิดว่า ความแข็งแรงทางร่างกายของคิม น่าจะลดลงอย่างมาก เพราะเขาต้องหลีกเลี่ยงความตึงเครียด และต้องจำกัดการทำกิจกรรมต่างๆ คาดว่า อาการป่วยครั้งนี้จะเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการบริหารประเทศในระยะยาว