เอเอฟพี - บริษัทผู้ประกอบการด้านการขนส่งทางน้ำ เอ็มไอเอสซี เบอร์แฮด แถลงวันอังคาร (2) สั่งห้ามเรือของบริษัทเดินเรือเข้าไปในอ่าวเอเดน นอกชายฝั่งโซมาเลีย หลังจากเรือสินค้าของประเทศ 2 ลำถูกโจรสลัดปล้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา
น่านน้ำดังกล่าวเต็มไปด้วยโจรสลัดมากที่สุดในโลก และได้ลงมือโจมตีเรือสินค้ามากมายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เรือ 8 ลำถูกยัดโดยโจรสลัดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม
“เอ็มไอเอสซีสั่งห้ามเรือของบริษัทเข้าไปยังอ่าวเอเดน จนกว่าทางเอ็มไอเอสซี จะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ส่งเสริมความปลอดภัยของเรือและลูกเรือ” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์
เรือบันกา เมลาติ 5 พร้อมลูกเรือ 41 คน 36 คนเป็นชาวมาเลเซียและชาวฟิลิปปินส์ 5 คน ซึ่งบรรทุกน้ำมันถูกโจรสลัดโจมตีและเข้ายึดเมื่อวันศุกร์ (29) บริเวณฝั่งทะเลของเยเมน
10 วันก่อนหน้านั้น เรือบรรทุกน้ำมันปาล์ม บันกา เมลาติ ดัว แถลงว่า เรือดังกล่าวบรรทุกน้ำมันปาล์มจากจังหวัดสุมาตราของอินโดนีเซียไปยังเมืองร็อตเตอร์ดัมในเนเธอร์แลนด์ แต่ระหว่างทางถูกกลุ่มโจรสลัดเข้าโจมตีบริเวณอ่าวโซมาเลีย โดยทางเอ็มไอเอสซี ระบุว่า มีลูกเรือชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิตในเหตุโจมตีดังกล่าว 1 คน
เอ็มไอเอสซี บอกว่า สามารถตกลงกับโจรสลัดให้ปล่อยลูกเรือของเรือลำแรกอย่างปลอดภัย แต่ยังไม่สามารถติดต่อกับเรือลำที่ 2 ได้
โซมาเลียเป็นแหล่งที่มีโจรสลัดชุกชุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีรายงานการโจมตีเรือต่างๆ แล้วถึง 24 ครั้ง ทำให้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติให้เรือรบนานาชาติแล่นเข้าสู่น่านน้ำของโซมาเลียเพื่อปราบโจรสลัด