xs
xsm
sm
md
lg

เรือรบสหรัฐฯไปถึง “จอร์เจีย” รัสเซียยังไม่ถอนทหารที่เหลือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรือรบของสหรัฐฯ
เอเจนซี - เรือรบสหรัฐฯ ลำหนึ่งเดินทางถึงท่าเรือบาตูมิ ในทะเลดำของจอร์เจีย เมื่อวันนี้ (24) พร้อมด้วย “ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม” ขณะที่รัสเซียยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของฝ่ายตะวันตกให้ถอนทหารให้หมด โดยบอกว่าต้องคงกองกำลังสันติภาพไว้เพื่อป้องกันเหตุนองเลือด

ความขัดแย้งนองเลือดครั้งนี้ปะทุขึ้นในระหว่างวันที่ 7-8 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยจอร์เจียได้ส่งกำลังทหารเข้าไปยึดแคว้นเซาท์ออสเซเชีย ซึ่งต้องการแยกดินแดนเป็นอิสระ และรัสเซียก็ตอบโต้ด้วยการส่งกำลังทหารรุกเข้าไปในจอร์เจีย โดยข้ามเส้นทางหลักสายตะวันออก-ตะวันตกและเข้าใกล้ท่อส่งน้ำมันซึ่งตะวันตกสนับสนุน

นอกจากนั้น กำลังทหารของรัสเซียยังเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันตกของจอร์เจีย จากแคว้นอับฮาเซีย อันเป็นแคว้นที่ประกาศแยกตัวเป็นอิสระอีกแคว้นหนึ่ง และตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งริมทะเลดำ จนเกิดเหตุสู้รบกันขึ้นอีกแห่งหนึ่ง มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ขณะที่อีกหลายหมื่นคนต้องพลัดถิ่นฐาน และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ถูกทำลาย

ที่เมืองบูตามิ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองท่าโปติไปทางใต้ราว 80 กิโลเมตร ปรากฏว่า เรือรบแมคฟอล ซึ่งเป็นเรือพิฆาตติดขีปนาวุธของสหรัฐฯ ได้แล่นเข้าเทียบท่าเพื่อนำสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปช่วยเหลือบรรดาผู้พลัดถิ่น ในขณะที่กองกำลังของรัสเซียก็ยังประจำการอยู่ในเมืองโปติ

สหรัฐฯ ยังส่งเรือรบอีก 2 ลำ ที่จะติดตามเรือแมคฟอล เข้าไปยังท่าเรือเมืองบูตามิด้วย โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังจอร์เจียบ้างแล้วด้วยเครื่องบินลำเลียงของทหาร แต่ความช่วยเหลือทางเรือครั้งนี้เป็นข้าวของจำนวนเครื่องนอนและอาหาร

ด้านสำนักข่าวของรัสเซีย รายงานว่า เรือมอสกวา ซึ่งเป็นเรือธงของกองเรือประจำภาคพื้นทะเลดำของรัสเซีย ได้เดินทางกลับไปยังฐานประจำการที่ยูเครนตั้งแต่วันเสาร์แล้ว

**รัสเซียยังคงกำลังทหาร**

สหรัฐฯ และยุโรปนั้น หวาดกลัวว่า การคงกำลังทหารของรัสเซียในจอร์เจียต่อไป จะทำให้การแยกตัวเป็นอิสระของ 2 แคว้นยิ่งกลายเป็นเรื่องถาวร,บ่อนทำลายรัฐบาลของประธานาธิบดีมิเฮอิล ซาคัชวิลี ที่ตะวันตกให้การสนับสนุน ตลอดจนเป็นการคุกคามท่อส่งน้ำมันและก๊าซสายสำคัญที่ตัดผ่านประเทศนี้

ยิ่งกว่านั้น การตั้งด่านตรวจที่เมืองท่าโปติ ซึ่งอยู่นอกเขตความมั่นคงปลอดภัยของรัสเซีย และอยู่ห่างจากเซาท์ออสซีเชียหลายร้อยกิโลเมตร โดยที่รัสเซียอ้างว่า ทหารที่อยู่ในโปติเป็น “กองกำลังรักษาสันติภาพ” ตามข้อตกลงหยุดยิง ก็ทำให้จอร์เจียและตะวันตกหนักใจอย่างยิ่ง

“การจัดกำลังประจำการถาวรและตั้งด่านตรวจถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง (หยุดยิง)” กอร์ดอน จอห์นโร โฆษกทำเนียบขาวกล่าว

ส่วนฝรั่งเศสก็ได้กระตุ้นเตือนรัสเซียในวันเสาร์ให้ถอนกำลังจากเมืองโปติให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ แม้ว่าโปติจะไม่ใช่เมืองท่าขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุด แต่ก็สามารถขนส่งน้ำมันถึง 100,000 บาร์เรลต่อวัน โดยรับช่วงต่อจากการขนส่งทางรถไฟจากอาเซอร์ไบจาน และเมืองโปติ ยังเป็นทางเข้าออกของสินค้าไปยังจอร์เจีย และประเทศในแถบคอเคซัส รวมทั้งเอเชียกลาง

ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่า เขาและประธานาธิบดีดมิตรี มิดเวเดฟ แห่งรัสเซียได้ตกลงกันเมื่อวันเสาร์ (23) ว่า จำเป็นจะต้องสร้างกลไกระหว่างประเทศขึ้นภายใต้องค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) เพื่อเข้าไปแทนที่กองกำลังรัสเซียในเขตกันชนในเซาท์ออสซีเชีย

ทว่า รัสเซียกลับระบุว่า ไม่ได้มีการคุยกันเรื่องการสับเปลี่ยนกองกำลังรักษาสันติภาพ และก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยบอกว่าเซาท์ออสเซเชีย และอับฮาเซีย นั้น จะยอมรับแต่กองกำลังรักษาสันติภาพของรัสเซียเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น