เอเอฟพี – เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนในเมืองบูอิรา ทางตะวันออกของแอลจีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน และบาดเจ็บอีก 31 คน โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีโรงเรียนตำรวจ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 43 รายเพียง 1 วัน
เหตุระเบิดทั้ง 2 ครั้งเกิดขึ้นหน้าโรงแรมโซฟี และที่บัญชาการกองทัพในเมืองบูอิรา ซึ่งห่างจากเมืองหลวง แอลเจียร์ไปประมาณ 120 กิโลเมตร โดยเสียงระเบิดดังสนั่นไปไกลในรัศมีหลายร้อยเมตรทีเดียว
ขณะที่ยังไม่มีการแจ้งเหตุโจมตีครั้งนี้อย่างเป็นทางการ รวมถึงยังไม่มีผู้ใด หรือกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบด้วย
การโจมตีทั้ง 2 ครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากมือระเบิดฆ่าตัวตายขับรถติดระเบิดพุ่งชนประตูหน้าของโรงเรียนตำรวจในเมืองอิสเซอร์ส ห่างจากกรุงแอลเจียร์ไปทางตะวันออกประมาณ 60 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 43 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 45 คน โดยที่เหยื่อหลายคนเป็นผู้สมัครสอบเข้ากรมตำรวจกึ่งทหาร ซึ่งกำลังยืนรออยู่หน้าทางเข้า
การโจมตีที่เกิดขึ้นในแอลจีเรีย และโมร็อกโก ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านหลายครั้งก่อนหน้านี้มีกลุ่มอัลกออิดะห์ออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ชี้ชัดว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในวันอังคาร (19) ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เหตุระเบิดดังกล่าวกลายมาเป็นเหตุโจมตีที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือนของแอลจีเรีย และเป็นครั้งที่เลวร้ายยิ่งกว่าเหตุระเบิดโจมตีสำนักงานของรัฐบาล และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในกรุงแอลเจียร์เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2007 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 41 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
การโจมตีครั้งนั้นถูกอ้างโดยกลุ่มซาลาฟิสต์เพื่อการสั่งสอน และการต่อสู้ หรือจีเอสพีซี กลุ่มติดอาวุธในแอลจีเรีย ที่ประกาศตัวเป็นพันธมิตรกับกลุ่มอัลกออิดะห์ในปีที่ผ่านมา และเรียกชื่อตัวเองใหม่ในภาษาอาหรับว่า มักห์เรบ
