โอละพ่อ! สาวมะกันเจ้าของลูกสุนัขโคลนนิงที่แท้เป็นอดีตนางงามหื่นกามจอมฉาว

เอเจนซี – แฉหญิงชาวอเมริกันเจ้าของลูกสุนัขโคลนนิงทั้ง 5 ตัว ซึ่งสร้างภาพว่าเป็นคนรักสัตว์ ถูกเปิดโปงว่าไม่ได้เป็นนักเขียนบทภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดอย่างที่อ้าง และยังเคยตกเป็นผู้ร้ายในคดีลักพาตัวมิชชันนารีนิกายมอร์มอนคนหนึ่ง ก่อนนำตัวไปใส่กุญแจมือล็อกไว้กับเตียง และบังคับให้เป็นทาสสนองกามารมณ์เมื่อ 31 ปีที่แล้ว

เอกสารของศาลและข้อมูลของเรือนจำ ระบุว่า เบอร์นานน์ แมคคินนีย์ หญิงสาวเจ้าของลูกสุนัขโคลนนิงที่ตกเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่แท้ก็คือ จอยซ์ แมคคินนีย์ วัย 57 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักพาตัวมิชชันนารีคนหนึ่งเมื่อปี 1977 ซึ่งหนีประกัน และไม่ได้ถูกนำตัวเข้ารับการพิจารณาโทษที่ก่อไว้แต่อย่างใด

หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ของอังกฤษจำหน้าของแมคคินนีย์ได้ หลังจากได้เห็นรูปถ่ายที่เธอถ่ายกับลูกสุนัขทั้ง 5 ตัวซึ่งเป็นโคลนนิงของเจ้าบูเกอร์ สุนัขพันธุ์พิตต์บูลล์ เทอร์เรียร์ที่ได้ตายจากไปเมื่อ 2 ปีก่อน

ข้อมูลการจับกุมและเอกสารของศาลระบุข้อมูลที่ตรงกันระหว่างเบอร์นานน์ แมคคินนีย์ และจอยซ์ แมคคินนีย์ ทั้งวันเกิด เลขที่ประกันสังคม บ้านเกิดที่เมืองนิวแลนด์ รัฐนอร์ท แคโรไลนา และชื่อกลาง ซึ่งก็คือ เบอร์นานน์

“ผมพูดว่าโอ้...พระเจ้า นั่นมันจอยซ์นี่” เทรนต์ แฮร์ริส ผู้สร้างหนังในรัฐยูทาห์ ในฐานะผู้สร้างสารคดีเกี่ยวกับจอยซ์ แมคคินนีย์กล่าวหลังได้เห็นรูปถ่ายของแมคคินนีย์และลูกสุนัขทั้ง 5 ตัวดังกล่าว

ขณะที่ แมคคินนีย์ได้ออกมาปฏิเสธว่าตัวเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับจอยซ์ แมคคินนีย์ และกำลังวางแผนที่จะฟ้องร้องผู้ที่กล่าวหาเธอต่อไป

“ฉันกำลังจะยื่นฟ้องผู้ที่ใส่ร้ายฉันในข้อหาหมิ่นประมาทเป็นเงิน 10 ล้านดอลลาร์ (337 ล้านบาท) และฉันคิดว่าคุณคงไม่อยากให้เอพีถูกฟ้องด้วยหรอกนะ” แมคคินนีย์กล่าวก่อนเดินทางออกจากกรุงโซลของเกาหลีใต้เพื่อมุ่งหน้ากลับสหรัฐฯ

ขณะที่อยู่ในเกาหลีใต้ แมคคินนีย์ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เธอมีอาชีพเป็นนักเขียนบทภาพยนตร์ และระบุที่ทำงานในนามบัตรว่า ฮอลลีวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่จากการตรวจสอบของเอพีกลับไม่พบที่อยู่ดังกล่าวแต่อย่างใด

เรื่องราวชีวิตของจอยซ์ แมคคินนีย์ดูจะไม่ต่างจากนิยายราคาถูกเท่าไร นางงามจากรัฐนอร์ท แคโรไลนาซึ่งย้ายมายังตะวันตกผู้นี้ สามารถคว้ามงกุฎมิสไวโอมิง ก่อนเปลี่ยนมานับถือนิกายมอร์มอน และเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยบริกแฮม ยัง ซึ่งที่นี่เธอหลงรักเพื่อนนักเรียนชายคนหนึ่งที่นับถือนิกายเดียวกันอย่างหัวปักหัวปำ จนกระทั่งมหาวิทยาลัยจัดทริปพามิชชันนารีไปอังกฤษ แมคคินนีย์ก็ได้จ้างนักสืบเอกชนคอยติดตามความเคลื่อนไหวของเหยื่ออย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะร่วมมือกับเพื่อนนักเรียนชายอีกคนหนึ่งลักพาตัวเหยื่อ วัย 21 ปี ไปขังไว้ที่ “กระท่อมฮันนีมูน” ในเมืองเดวอน พร้อมกับจับเหยื่อใส่กุญแจมือล็อกไว้กับเตียง ก่อนบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยหลายครั้ง แต่โชคดีที่เหยื่อสามารถหลบหนีออกมาได้ และเข้าแจ้งความกับตำรวจในที่สุด

ทั้งนี้ ขณะขึ้นให้การต่อศาลอังกฤษ จอยซ์ แมคคินนีย์ ระบุว่า เพราะเธอหลงรักเพื่อนนักเรียนชายคนดังกล่าวจึงได้ตามเขามาที่อังกฤษ อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้บังคับให้เขามีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่เป็นความสมัครใจของชายหนุ่มเอง ซึ่งศาลได้ส่งตัวแมคคินนีย์และผู้สมรู้ร่วมคิดไปคุมขังในเรือนจำ ก่อนที่จะได้รับการประกันตัวในอีก 3 เดือนต่อมา แต่ทั้งคู่ได้หนีประกันด้วยการปลอมตัวเป็นนักแสดงหูหนวกและเป็นใบ้ขณะเดินทางไปยังไอร์แลนด์ ก่อนที่จะขึ้นเครื่องของสายการบินแอร์ แคนาดาต่อไปยังเมืองโตรอนโต และนั่งรถบัสข้ามไปยังเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ อย่างไรก็ตามปัจจุบันคดีดังกล่าวได้หมดอายุความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จอยซ์ แมคคินนีย์ถูกจับอีกครั้งในรัฐยูทาห์เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 1984 ในข้อหาสะกดรอยตามมิชชันนารีคนเดิม ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า ตำรวจพบเชือกและกุญแจมือที่ท้ายรถของแมคคินนีย์ รวมถึงสมุดจดบันทึกซึ่งจดกิจกรรมประจำวันของชายหนุ่มอย่างละเอียด อย่างไรก็ตามแมคคินนีย์ได้หายตัวไปอีกครั้งก่อนที่การพิจารณาคดีในข้อหาให้การเท็จและก่อความรำคาญจะเริ่มขึ้นในปี 1986 ก่อนที่คดีจะถูกยกฟ้องในที่สุด

ขณะที่ นายอำเภอเควิน เฟรย์จากอาเวอรี เคาน์ตี้ เมืองนิวแลนด์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแมคคินนีย์ กล่าวว่า จอยซ์ แมคคินนีย์ยังมีคดีติดตัวอีกหลายคดี ในจำนวนนี้รวมถึงคดีข่มขู่หญิงคนหนึ่งเมื่อปี 2003 และคดีทารุณกรรมสัตว์จากการปล่อยปละละเลยม้าที่เลี้ยงไว้เมื่อปี 2004 ซึ่งถูกยกฟ้องแล้วเช่นกัน