เอเอฟพี – นักวิเคราะห์สหรัฐฯ ชี้ การที่รัสเซียใช้กำลังทหารโจมตีจอร์เจีย หลังมีการถล่มแคว้นเซาท์ ออสเซเทีย ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของมอสโกในภูมิภาคนั้น มากกว่าที่จะแสดงให้ประเทศตะวันตกอื่นๆ เห็นถึงความแข็งแกร่งของตัวเอง
เจฟฟรีย์ แมนคอฟ แห่งสภาความสัมพันธ์ต่างชาติ เผยว่า ความจริงที่มีทหารรัสเซียเคลื่อนไหวในขณะนี้เป็นการตอบโต้ครั้งใหญ่ต่อการตัดสินใจของประธานาธิบดีมิฮาอิล ซาคาชวิลีของจอร์เจีย ที่ได้สหรัฐฯ หนุนหลัง โดยการส่งทหารเข้าไปในเซาท์ออสเซเทีย เพื่อพยายามเข้าครองแคว้นดังกล่าว เมื่อคืนวันพฤหัสบดี (7) ที่ผ่านมา
“นั่นเป็นการกระทำที่ไม่รอบคอบ โดยเฉพาะเนื่องจากผมไม่คิดว่าตะวันตกจะช่วยเหลือเขา ตะวันตกจะไม่ทำสงครามเพื่อเขา โดยเฉพาะจะไม่ต่อกรกับรัสเซีย” แมนคอฟกล่าว
สำหรับ สตีเฟน แลร์ราบี แห่งแรนด์ คอร์ปอเรชัน กล่าวว่า รัสเซียจะไม่ยอมให้จอร์เจียถล่มแคว้นดังกล่าว โดยไม่มีการตอบโต้
แลร์ราบี ชี้ว่า “ผมคิดว่า พวกเขาต้องการเอาเลือดออกจากจมูกของจอร์เจีย และสั่งสอนบทเรียนเล็กน้อย และยังเพื่อแสดงว่า พวกเขามีผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้ และพวกเขาตั้งใจจะปกป้องผลประโยชน์เหล่านั้น”
ด้านมอสโกได้ส่งรถถัง และทหารเข้าไปในทซฮินวาลี เมืองหลวงของแคว้นเซาท์ ออสเซเทีย ในวันศุกร์ (8) ที่ผ่านมา หลังประกาศจะตอบโต้ เพื่อปกป้องพลเมืองชาวรัสเซีย ที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งถูกโจมตีอย่างหนักทั้งทางบก และทางอากาศโดยกองทัพจอร์เจีย
ขณะที่ จอร์เจียก็เร่งเร้าให้นานาประเทศเรียกร้องให้รัสเซียยุติการรุกรานโดยใช้กำลังทหารเช่นกัน
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้ใช้ความพยายามทางการทูต เพื่อให้มีการหยุดยิง โดยคอนโดลิซซา ไรซ์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เร่งให้รัสเซียถอนทหารออกจากเซาท์ ออสเซเทียโดยเร็ว
ยิ่งไปกว่านั้น แมนคอฟยังชี้ว่า หากยังมีความขัดแย้งต่อไป การเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโตของจอร์เจียก็จะล่าช้าออกไป เนื่องจากประเทศสมาชิกของนาโตต้องมีอำนาจอธิปไตยในดินแดนทั้งหมดของตนเอง ขณะที่ รัสเซียเองก็คัดค้านไม่ให้จอร์เจียเข้าร่วมองค์กรนี้มาโดยตลอด จึงเป็นเหตุให้รัสเซียยังคงขัดขวางทางแก้ไขความขัดแย้งดังกล่าว
ทั้งนี้ เซาท์ ออสเซเทีย และอับฮาเซีย แคว้นกบฏที่แยกตัวออกจากจอร์เจีย หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 ในสงคราม ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน และยังทำให้พลเมืองอีกหลายแสนคนต้องลี้ภัยจากบ้านเมืองของตัวเอง