เอเจนซี – ตำรวจสหรัฐฯ จับกุมชายคนหนึ่ง พร้อมช่วยเหลือเด็กหญิง ซึ่งถูกพ่อแท้ๆ ลักพาตัวไว้ได้อย่างปลอดภัยที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ หลังชายคนดังกล่าวก่อเหตุจับลูกสาว วัย 7 ขวบของตัวเองที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เอ็ด เดวิส ผู้บัญชาการตำรวจเมืองบอสตัน กล่าวว่า พลเมืองดีได้แจ้งเบาะแสกับตำรวจว่า คลาร์ก ร็อกกีเฟลเลอร์ หลบซ่อนตัวอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองบัลติมอร์ พร้อมกับเรือยอชต์ลำหนึ่งซึ่งจอดอยู่ที่ท่าเรือใกล้ๆ ที่พัก ก่อนที่ตำรวจจะออกอุบายหลอกร็อกกีเฟลเลอร์ ว่า มีคนขโมยเรือของเขาเพื่อให้เขาออกจากอพาร์ตเมนต์ และบุกเข้าไปช่วยเรจ บอสส์ หนูน้อย วัย 7 ขวบ ไว้ได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ ตำรวจเมืองบัลติมอร์จะส่งตัวเขากลับมาดำเนินคดีในข้อหาลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธทำร้ายร่างกายที่เมืองบอสตันในวันจันทร์ (4) นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้หนูน้อยอาศัยอยู่กับแซนดรา บอสส์ แม่ของเธอซึ่งทำงานอยู่ที่บริษัทที่ปรึกษาจัดการชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนของอังกฤษ และกำลังจะหย่าขาดจากพ่อของเธอ ซึ่งการเข้าจับกุมในครั้งนี้ มีขึ้นหลังผู้เป็นพ่อได้ก่อเหตุลักพาตัวลูกสาวของเขาเอง โดยได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ ก่อนที่จะอุ้มเด็กหนีออกมาอย่างรวดเร็ว
ด้านตำรวจ เชื่อว่า ร็อกกีเฟลเลอร์ได้วางแผนลักพาตัวลูกสาวมาอย่างดี โดยได้จ้างคนขับรถ 2 คน ให้พาเขาและลูกไปยังนิวยอร์ก ซิตี ก่อนที่ล่าสุดจะมีคนเห็นเขาและหนูน้อยที่สถานีรถไฟแกรนด์ เซ็นทรัล เมื่อวันอาทิตย์ (27) ที่ผ่านมา ซึ่งในตอนแรกตำรวจคิดว่า ร็อกกีเฟลเลอร์ กำลังวางแผนพาหนูน้อยนั่งเรือหนีจากลอง ไอส์แลนด์ ไปยังเบอร์มิวดา หรือเปรู แต่มาคิดได้ว่าแผนการดังกล่าวน่าจะเป็นการตบตาตำรวจให้หลงทางมากกว่า นอกจากนี้การสอบสวน ยังพบว่า ร็อกกีเฟลเลอร์ไม่ได้พาลูกสาวนั่งเรือไปยังบัลติมอร์ด้วยเช่นกัน เพราะเรือยอชต์ลำดังกล่าวจอดอยู่ที่ท่าเรือมาตลอด
อย่างไรก็ตาม ตำรวจกำลังสอบสวนคดีดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อดูว่ามีใครร่วมมือกับร็อกกีเฟลเลอร์ในการก่อเหตุลักพาตัวลูกสาวหรือไม่ รวมถึงกำลังสืบว่าแท้ที่จริงแล้วผู้ต้องหามีชื่อจริงว่าอะไร เนื่องจากพบว่าร็อกกีเฟลเลอร์ใช้ชื่อปลอมมาแล้วอย่างน้อย 4 ชื่อ รวมถึงชื่อปัจจุบัน ซึ่งล่าสุดสมาชิกในตระกูลร็อกกีเฟลเลอร์ได้ออกมาระบุว่า ผู้ต้องหารายนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลมหาเศรษฐีชื่อดังของสหรัฐฯ แต่อย่างใด