สื่อนอกอ้างนักวิเคราะห์ชี้ “หญิงอ้อติดคุก” ลางบอกเหตุถึง “แม้ว”!!

เอเอฟพี/เอเจนซี - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวการพิจารณาคดีของศาล ซึ่งตัดสินให้คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดจริงฐานหลบเลี่ยงภาษี ชี้ว่านี่เป็นสัญญาณบอกเหตุสำหรับสิ่งอื่นๆ ที่จะติดตามมา และคำตัดสินสามารถปัดเป่าข้อสงสัยว่าผู้มีอำนาจ และมั่งมีสามารถถูกลงโทษได้เช่นกัน

สำนักข่าวยักษ์ใหญ่ ทั้งเอเอฟพี รอยเตอร์ เอพี รวมถึงโทรทัศน์บีบีซี และซีเอ็นเอ็น พร้อมใจรายงานข่าวคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และพี่ชาย นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ได้รับโทษจำคุก 3 ปี ขณะที่ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงได้รับโทษ 2 ปี โดยทั้ง 3 คน ได้ประกันตัวออกไปด้วยจำนวนเงินคนละ 5 ล้านบาท เพื่อรออุทธรณ์

รอยเตอร์ บอกว่า คณะกรรมการสอบสวนการทุจริตที่แต่งตั้งโดยทหาร ได้ยื่นฟ้องร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวในหลายๆ คดี และการตัดสินคดีในวันพฤหัสบดีเป็นสัญญาณประการหนึ่งที่แสดงว่า กระแสคดีความกำลังหันมาเล่นงานอภิมหาเศรษฐีอดีตเจ้าพ่อการสื่อสารผู้นี้ ซึ่งยังคงมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลชุดปัจจุบันอย่างไม่มีข้อสงสัย

สำนักข่าวแห่งนี้ กล่าวต่อไปว่า ในสภาพเช่นนี้เองยิ่งเพิ่มกระพือข่าวลือที่ว่า เขากำลังพยายามที่จะทำความตกลงกับฝ่ายที่กำลังฟ้องร้องเขา ตลอดจนพวกที่เป็นปรปักษ์ต่อเขาในกองทัพและในแวดวงสถาบัน โดยจะยอมรับที่จะลี้ภัยช่วงเวลาหนึ่งแทนที่การถูกจำคุก

ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพี กล่าวว่า บรรดานักวิเคราะห์ต่างเห็นพ้องกันว่า คำตัดสินในวันพฤหัสบดีคือสัญญาณแสดงถึงแนวทางที่เข้มงวดยิ่งขึ้นที่อดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้จะต้องเผชิญ

เอเอฟพีได้หยิบยกคำพูดของคริส เบเกอร์ นักวิเคราะห์การเมืองที่พำนักอยู่ในกรุงเทพฯและเขียนหนังสือเกี่ยวกับชีวประวัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาแล้ว โดยเบเกอร์ บอกว่า คำพิพากษาคราวนี้ มีความสำคัญต่อทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา ไม่มีใครต้องสงสัยเลยว่าเรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องของครอบครัว โดยกระทบต่อพวกเขาทั้งหมด

เบเกอร์ บอกว่า การดำเนินคดีในประเทศไทย มักจะถูกคุกคามจากคนที่อยู่ในอำนาจ หรือพวกที่เคยอยู่ในอำนาจ และคนเหล่านี้ก็ไม่ค่อยถูกระบุว่ามีความผิดจริง แต่ในคดีนี้ดูจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม เบเกอร์ คาดหมายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว น่าจะต่อสู้ต่อไปให้นานที่สุดที่จะเป็นไปได้ โดยจะใช้วิธีการภายใต้กฎหมายทุกๆ อย่างที่เป็นไปได้ แต่เขาก็ตั้งข้อสังเกตว่า ความสามารถของพวกเขาที่จะใช้วิธีอื่นๆ มาส่งอิทธิพลต่อการพิจารณาคดีในเวลานี้ อยู่ในสภาพจำกัดอย่างยิ่ง

เอเอฟพียังได้อ้างคำพูดของนายฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งกล่าวว่า การตัดสินใจคราวนี้เป็นสิ่งบอกเหตุของสิ่งอื่นๆ ที่จะติดตามมา เป็นลางบอกเหตุสำหรับกระบวนการทางกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ส่วนทาง บีบีซี โจนาธาน เฮด หัวหน้าสำนักงานในกรุงเทพฯ ของบีบีซี กล่าวว่า คนไทยจำนวนมากสงสัยว่าสามีภรรยาผู้ทรงอำนาจและมั่งคั่งร่ำรวยคู่นี้ จะถึงกับถูกตัดสินว่ากระทำความผิดได้หรือ แต่เวลานี้ความสงสัยเหล่านี้ก็เหือดหายไปหมดสิ้นแล้ว

เบเกอร์ บอกต่อว่า คดีแรกในการพิจารณาคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเขาถูกกล่าวหาใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีช่วยเหลือภรรยาของเขาซื้อที่ดินจากธนาคารกลาง อาจมีการตัดสินในช่วงต้นเดือนกันยายน และเพราะการพิจารณาคดีอยู่ในชั้นศาลฎีกา พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่มีโอกาสยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสิน

“มันคือกระสุนนัดเดียวที่ฆ่าคุณได้เลย” เบเกอร์กล่าว “มันจึงเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดอย่างมากสำหรับเขา” พรัอมระบุว่า คดีนี้มีความซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาคำพิพากษา

สำนักข่าวบีบีซีรายงานถึงคำพิพากษาของศาลที่ระบุว่า คุณหญิงพจมาน “ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในฐานะภริยาของนายกรัฐมนตรี”