เอเอฟพี – ทางการรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งอพยพประชาชนกว่า 14,000 คน ออกจากเมืองพาราไดซ์ ทางตอนเหนือของรัฐ หลังไม่สามารถควบคุมไฟป่าซึ่งโหมไหม้อย่างหนักได้
เจ้าหน้าที่จากหน่วยฉุกเฉิน กล่าวว่า กระแสลมแรงได้พัดไฟป่าออกนอกแนวกั้นใกล้กับเมืองพาราไดซ์ ห่างจากเมืองซาคราเมนโตไปทางตอนเหนือประมาณ 144 กิโลเมตร และได้ทำลายบ้านเรือนประชาชนไปแล้วกว่า 40 หลังในช่วงไม่กี่ชั่วโมงเมื่อเช้าวันอังคาร (8) ที่ผ่านมา
ชัค รัฟ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเหตุฉุกเฉินในเมืองพาราไดซ์ กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า แม้ว่าสถานการณ์ไฟป่าจะเบาบางลงเมื่อคืนวันจันทร์ (7) ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมพื้นที่กว่า 49,000 เอเคอร์ในบัตต์ เคาน์ตี้ ขณะที่ทางการได้สั่งอพยพประชาชนกว่า 14,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว
ทั้งนี้ พื้นที่ป่าที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงอุทยานแห่งชาติลอสพาเดรส ใกล้กับเมืองซานตาบาร์บารา และเมืองบิ๊กซูร์ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง โดยข้อมูลล่าสุด ระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าซึ่งเผาผลาญพื้นที่กว่า 9,710 เอเคอร์ใกล้กับเมืองซานตาบาร์บารา ทางตอนเหนือของลอสแองเจลิส ได้แล้ว 55 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สามารถควบคุมไฟป่าใกล้กับเมืองบิ๊กซูร์ ทางตอนใต้ของเมืองซานฟรานซิสโก ได้เพียง 27 เปอร์เซ็นต์
เหตุไฟป่าดังกล่าวเป็นหนึ่งในเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น 323 จุดทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพายุไฟที่ทำให้เกิดไฟป่ากว่า 1,800 จุดตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังเกิดฟ้าแลบจากพายุฝนจนทำให้เกิดไฟป่าขึ้นในที่สุด
ด้านสำนักงานป่าไม้และการป้องกันไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถดับไฟป่าได้ทั้งสิ้น 1,458 จุด ขณะที่เจ้าหน้าที่กว่า 18,900 นายยังคงรับมือกับไฟป่าที่โหมไหม้ทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียอย่างหนัก
เหตุไฟป่าในครั้งนี้ซึ่งเผาผลาญพื้นที่ป่าไปกว่า 675,634 เอเคอร์ เป็นครั้งที่รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเกิดไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนีย แม้ว่าจนถึงขณะนี้จะยังไม่มีผู้เสียชีวิต และมีบ้านเรือนถูกไฟไหม้ไปเพียง 96 หลังก็ตาม
ทั้งนี้ เหตุไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ป่าเป็นจำนวนถึง 500,000 เอเคอร์ และยังทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บ้านเรือนถูกไฟเผาผลาญกว่า 2,000 หลัง ขณะที่ทำให้ผู้คนไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 640,000 คน