เอเอฟพี – ผลการสำรวจเผยวัยรุ่นชาวเกาหลีใต้มองสหรัฐฯ เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติมากกว่าเกาหลีเหนือ ยิ่งไปกว่านั้น เด็กส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยว่าเปียงยางเป็นคนก่อสงครามเกาหลีเมื่อปี 1950-1953
กระทรวงการปกครองและความมั่นคงของบ้านเมืองทำการสำรวจเด็กนักเรียนมัธยมต้น และมัธยมปลาย เนื่องในโอกาสครบรอบ 58 ปี ที่เกาหลีเหนือรุกรานประเทศ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงาน
เด็กนักเรียนน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ทราบว่า สงครามครั้งนั้นเริ่มต้นในปี 1950 และมีเพียง 48.7% ที่ระบุได้ว่า เกาหลีเหนือเป็นฝ่ายเริ่ม ขณะที่ 13.5% ตำหนิว่าเป็นความผิดของญี่ปุ่น 13.4% มองว่าเป็นสหรัฐฯ 11% รัสเซีย 3.4% จีน และเกาหลีเหนือเอง 2%
นอกจากนี้ นักเรียนถึง 64% ไม่รู้สึกวิตกกังวลว่าเกาหลีเหนือจะก่อสงครามอื่นอีก และมีเพียง 56% เท่านั้นที่รู้สึกหวาดกลัวอาวุธนิวเคลียร์ของโสมแดง
ขณะที่ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรมาอย่างยาวนานกับรัฐบาลโซล กลับถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดต่อเกาหลีใต้ถึง 28.4% ตามด้วยญี่ปุ่น 27.7% เกาหลีเหนือ 24.5% และจีน 13%
สหรัฐฯ นำอยู่ในกองกำลังผสมของยูเอ็น ซึ่งช่วยโสมขาวต่อสู้ หลังจากถูกโสมแดงเข้ารุกราน ด้วยความยินยอมของสหภาพโซเวียต ขณะที่ จีนส่งทหารไปช่วยเกาหลีเหนือ เมื่อกองกำลังของยูเอ็นรุกล้ำเข้าใกล้ชายแดนของตัวเอง
“บางคนบอกว่ารัฐบาลเสรีนิยม ซึ่งครองอำนาจมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้สอนนักเรียนเกี่ยวกับสงคราม และสถานะปัจจุบันของเกาหลีใต้เพียงพอ แต่กลับไปเน้นที่การไกล่เกลี่ยปรองดองระหว่าง 2 เกาหลี” แบกซุงจู แห่งสถาบันวิเคราะห์การป้องกันเกาหลีกล่าวกับหนังสือพิมพ์โคเรียไทมส์
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของตัวเอง แต่นักเรียนเหล่านั้นก็มีความรักชาติอย่างยิ่ง โดย 81% ของพวกเขากล่าวอย่างเต็มปากว่าภาคภูมิใจในประเทศของตัวเอง