ตามที่ “ผู้จัดการออนไลน์” ได้เสนอข่าวตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำกำลังบุกรวบสาวชาว “คูเวต” จำนวน 12 คน เดินเร่ค้าประเวณีในเมืองพัทยา ไปเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2551 ที่ผ่านมา โดยเนื้อข่าวระบุว่า “พ.ต.ต.วิทยา ยืนยง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งเข้าทำการตรวจสอบบริเวณย่านถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ เขตเมืองพัทยา หลังได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ว่า มีหญิงสาวต่างชาติเดินเร่เสนอขายบริการทางเพศ สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จึงได้นำกำลังเข้าไปทำการตรวจสอบก่อนควบคุมตัวหญิงสาวชาวคูเวตได้จำนวน 12 คน” นั้น
ทาง “ผู้จัดการออนไลน์” ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงซ้ำอีกครั้งพบว่าหญิงสาวทั้ง 12 คนดังกล่าว เป็นชาว “อุซเบกิสถาน” ไม่ใช่ชาว “คูเวต” แต่อย่างใด ซึ่งตามข่าวข้อเท็จจริงเป็นดังนี้
“วันนี้ (6 พ.ค.) พ.ต.ต.วิทยา ยืนยง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งเข้าทำการตรวจสอบบริเวณย่านถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ เขตเมืองพัทยา หลังได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ว่า มีหญิงสาวต่างชาติเดินเร่เสนอขายบริการทางเพศ สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จึงได้นำกำลังเข้าไปทำการตรวจสอบก่อนควบคุมตัวหญิงสาวชาวอุซเบกิสถานได้จำนวน 12 คน
สอบสวนทราบว่า หญิงสาวชาวอุซเบกิสถาน ทั้งหมดได้เดินเร่ขายบริการทางเพศจริง โดยมีเพื่อนที่เคยเดินทางมาทำงานก่อนแล้วเป็นผู้ชักนำมา โดยถือวีซ่านักท่องเที่ยวพากันเดินทางเข้ามาที่เมืองพัทยา และลักลอบค้าประเวณีให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในราคาครั้งละ 2,500-3,000 บาท โดยได้ทำมากว่า 2 เดือนแล้วจนกระทั่งมาถูกทางเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบหนังสือเดินทาง ว่า มีการเข้ามาในประเทศได้อย่างไรและสอบสวนขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าน่าจะมีเอเยนต์ค้ามนุษย์ หรือเครือข่ายเป็นคนนำพาเข้ามาก่อนจะมาเร่ขายบริการทางเพศดังกล่าว”
สำหรับประเทศอุซเบกิสถาน เพิ่งแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต เมื่อ 10 กว่าปีก่อน และเป็นตลาดเกิดใหม่ของการท่องเที่ยวเมืองพัทยาเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศที่เคยอยู่ภายใต้สหภาพโซเวียต