เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงผันผวนหนัก โดยหลังจากทะยานขึ้นไปถึงกว่า 5 ดอลลาร์ในวันพุธ (11) ก็ได้ถอยลงมาเกือบ 3 ดอลลาร์วานนี้ (12) ขณะที่บรรดาหน่วยงานกำกับตรวจสอบของสหรัฐฯ ก็เริ่มหารือกันในเรื่องระเบียบกฎเกณฑ์ดูแลตลาดล่วงหน้าน้ำมัน ภายหลังถูกโจมตีหนักว่ามีการปล่อยปละหละหลวมมาก
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ ซื้อขายกันที่ลอนดอน เมื่อเวลา 11.26 น.วานนี้ ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (ตรงกับ 18.26 น.เวลาเมืองไทย) ที่ราคา 133.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำลงมาจากตอนปิดวันพุธ 2.90 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของอังกฤษ ในช่วงเวลาเดียวกัน ยืนอยู่ที่ 132.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจากระดับปิดวันพุธ 2.59 ดอลลาร์
พวกนักวิเคราะห์ มองว่า ราคาที่ไหลลงมาเมื่อวานนี้ เป็นเพราะค่าเงินดอลลาร์ซึ่งแข็งแรงขึ้น ตลอดจนการที่น้ำมันมีราคาพุ่งทะยานขึ้นไปมากแล้วในวันพุธ จึงทำให้มีการเทขายทำกำไรเพื่อปรับฐาน
ทั้งนี้ ไลต์สวีตครูด ปิดตลาดไนเม็กซ์ที่นิวยอร์กในวันพุธ โดยพุ่งขึ้นถึง 5.07 ดอลลาร์ ไปหยุดที่ 136.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ก็ปิดวันพุธ ด้วยการกระโจนขึ้นไป 4.00 ดอลลาร์ อยู่ที่ 135.02 ดอลลาร์
เหตุผลสำคัญที่พวกเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์ใช้อธิบายการทะยานโด่งนี้ก็คือ ตัวเลขน้ำมันตามคลังเก็บทั่วสหรัฐฯประจำสัปดาห์ที่กระทรวงพลังงานอเมริกันแถลงในวันพุธ ซึ่งแสดงว่า ปริมาณน้ำมันดิบได้ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล นับว่าต่ำกว่าที่ตลาดคาดหมาย และก็เป็นการลดตัว 4 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว
อย่างไรก็ตาม สภาพที่ราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวนขึ้นลงกันวันละหลายๆ ดอลลาร์เช่นนี้ นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า ยังน่าจะเกิดต่อไปอีกพักหนึ่ง
"เรากำลังไม่ค่อยแน่ใจนักว่า จริง ๆแล้วราคาน้ำมันแพงเกินไปแล้ว หรือยังขึ้นไปได้อีกกันแน่" เช่น เดวิด มัวร์นักยุทธศาสตร์ตลาดโภคภัณฑ์ของธนาคารคอมเมนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย ที่ตั้งอยู่ในซิดนีย์ แต่เขาก็คิดว่าในที่สุดแล้วราคาน้ำมันในระยะสั้นจะสูงขึ้น แม้ว่าจะช่วงนี้จะผันผวนขึ้นลงตลอดเวลาก็ตามเพราะ "บรรยากาศของตลาดตอนนี้กำลังคึกคักมากขึ้นในช่วงข้ามคืน"
มัวร์บอกด้วยว่า ตลาดยังกำลังจับตาดูการจัดการประชุมระหว่างประเทศผู้ผลิต และประเทศผู้บริโภคน้ำมัน ตลอดจนหน่วยงานวิจัย และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในวันที่ 22 เดือนนี้
อับดุลเลาะห์ บาดรี เลขาธิการองค์การโอเปก กล่าวว่า การประชุมคราวนี้จะเป็นระดับผู้นำ โดยที่ล่าสุด นายกรัฐมนตรี กอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษประกาศจะไปร่วมแล้ว ขณะที่ทำเนียบขาวบอกว่า ตัวแทนของสหรัฐฯคงจะเป็นรัฐมนตรีพลังงาน ซามูเอล บ็อดแมน
ทางด้าน สำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) แถลงในวันพุธ (11) ว่า บรรดาหน่วยงานกำกับตรวจสอบของทางการสหรัฐฯ รวมถึง คณะกรรมการการค้าอนุพันธ์ฟิวเจอร์สด้านสินค้าโภคภัณฑ์ (ซีเอฟทีซี) จะประชุมกันในวันพฤหัสบดี เพื่อหารือกันถึงระเบียบกฎเกณฑ์ในการดูแลตลาดล่วงหน้าน้ำมันดิบ
เวลานี้มีสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯหลายคน กำลังกดดันซีเอฟทีซี ให้อ้างสิทธิเข้าไปดูแลสิ่งที่สมาชิกรัฐสภาเหล่านี้เรียกว่าเป็น "ตลาดแอบแฝง" นั่นคือ การซื้อขายตราสารอนุพันธ์น้ำมันผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างเช่น ของ อินเตอร์คอนติเนนตอลเอ็กซเชนจ์ (ไอซีอี) ซึ่งปัจจุบันแทบไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปกำกับตรวจสอบกันเลย
ปัจจุบัน มีตราสารอนุพันธ์น้ำมัน ที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าในต่างประเทศ อย่างเช่น ลอนดอน,ดูไบ ที่มาเปิดจอซื้อขายกันทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ โดยที่ซีเอฟทีซีบอกปัดว่าตนเองไม่ได้มีหน้าที่ไปกำกับตรวจสอบ
ทว่าสมาชิกรัฐสภาหลายรายโต้แย้งว่า ในทางเป็นจริงแล้ว ตราสารอนุพันธ์น้ำมันที่ซื้อขายกันด้วยวิธีนี้ มีอนุพันธ์ฟิวเจอร์สสำหรับน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มิเดียต (WTI หรือที่รู้จักกันในนาม ไลต์สวีตครูด,ไลต์ครูด) ของสหรัฐฯ เองด้วย จึงควรอยู่ในอำนาจหน้าที่ของซีเอฟทีซี
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ ซื้อขายกันที่ลอนดอน เมื่อเวลา 11.26 น.วานนี้ ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (ตรงกับ 18.26 น.เวลาเมืองไทย) ที่ราคา 133.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำลงมาจากตอนปิดวันพุธ 2.90 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของอังกฤษ ในช่วงเวลาเดียวกัน ยืนอยู่ที่ 132.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจากระดับปิดวันพุธ 2.59 ดอลลาร์
พวกนักวิเคราะห์ มองว่า ราคาที่ไหลลงมาเมื่อวานนี้ เป็นเพราะค่าเงินดอลลาร์ซึ่งแข็งแรงขึ้น ตลอดจนการที่น้ำมันมีราคาพุ่งทะยานขึ้นไปมากแล้วในวันพุธ จึงทำให้มีการเทขายทำกำไรเพื่อปรับฐาน
ทั้งนี้ ไลต์สวีตครูด ปิดตลาดไนเม็กซ์ที่นิวยอร์กในวันพุธ โดยพุ่งขึ้นถึง 5.07 ดอลลาร์ ไปหยุดที่ 136.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ก็ปิดวันพุธ ด้วยการกระโจนขึ้นไป 4.00 ดอลลาร์ อยู่ที่ 135.02 ดอลลาร์
เหตุผลสำคัญที่พวกเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์ใช้อธิบายการทะยานโด่งนี้ก็คือ ตัวเลขน้ำมันตามคลังเก็บทั่วสหรัฐฯประจำสัปดาห์ที่กระทรวงพลังงานอเมริกันแถลงในวันพุธ ซึ่งแสดงว่า ปริมาณน้ำมันดิบได้ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล นับว่าต่ำกว่าที่ตลาดคาดหมาย และก็เป็นการลดตัว 4 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว
อย่างไรก็ตาม สภาพที่ราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวนขึ้นลงกันวันละหลายๆ ดอลลาร์เช่นนี้ นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า ยังน่าจะเกิดต่อไปอีกพักหนึ่ง
"เรากำลังไม่ค่อยแน่ใจนักว่า จริง ๆแล้วราคาน้ำมันแพงเกินไปแล้ว หรือยังขึ้นไปได้อีกกันแน่" เช่น เดวิด มัวร์นักยุทธศาสตร์ตลาดโภคภัณฑ์ของธนาคารคอมเมนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย ที่ตั้งอยู่ในซิดนีย์ แต่เขาก็คิดว่าในที่สุดแล้วราคาน้ำมันในระยะสั้นจะสูงขึ้น แม้ว่าจะช่วงนี้จะผันผวนขึ้นลงตลอดเวลาก็ตามเพราะ "บรรยากาศของตลาดตอนนี้กำลังคึกคักมากขึ้นในช่วงข้ามคืน"
มัวร์บอกด้วยว่า ตลาดยังกำลังจับตาดูการจัดการประชุมระหว่างประเทศผู้ผลิต และประเทศผู้บริโภคน้ำมัน ตลอดจนหน่วยงานวิจัย และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในวันที่ 22 เดือนนี้
อับดุลเลาะห์ บาดรี เลขาธิการองค์การโอเปก กล่าวว่า การประชุมคราวนี้จะเป็นระดับผู้นำ โดยที่ล่าสุด นายกรัฐมนตรี กอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษประกาศจะไปร่วมแล้ว ขณะที่ทำเนียบขาวบอกว่า ตัวแทนของสหรัฐฯคงจะเป็นรัฐมนตรีพลังงาน ซามูเอล บ็อดแมน
ทางด้าน สำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) แถลงในวันพุธ (11) ว่า บรรดาหน่วยงานกำกับตรวจสอบของทางการสหรัฐฯ รวมถึง คณะกรรมการการค้าอนุพันธ์ฟิวเจอร์สด้านสินค้าโภคภัณฑ์ (ซีเอฟทีซี) จะประชุมกันในวันพฤหัสบดี เพื่อหารือกันถึงระเบียบกฎเกณฑ์ในการดูแลตลาดล่วงหน้าน้ำมันดิบ
เวลานี้มีสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯหลายคน กำลังกดดันซีเอฟทีซี ให้อ้างสิทธิเข้าไปดูแลสิ่งที่สมาชิกรัฐสภาเหล่านี้เรียกว่าเป็น "ตลาดแอบแฝง" นั่นคือ การซื้อขายตราสารอนุพันธ์น้ำมันผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างเช่น ของ อินเตอร์คอนติเนนตอลเอ็กซเชนจ์ (ไอซีอี) ซึ่งปัจจุบันแทบไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปกำกับตรวจสอบกันเลย
ปัจจุบัน มีตราสารอนุพันธ์น้ำมัน ที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าในต่างประเทศ อย่างเช่น ลอนดอน,ดูไบ ที่มาเปิดจอซื้อขายกันทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ โดยที่ซีเอฟทีซีบอกปัดว่าตนเองไม่ได้มีหน้าที่ไปกำกับตรวจสอบ
ทว่าสมาชิกรัฐสภาหลายรายโต้แย้งว่า ในทางเป็นจริงแล้ว ตราสารอนุพันธ์น้ำมันที่ซื้อขายกันด้วยวิธีนี้ มีอนุพันธ์ฟิวเจอร์สสำหรับน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มิเดียต (WTI หรือที่รู้จักกันในนาม ไลต์สวีตครูด,ไลต์ครูด) ของสหรัฐฯ เองด้วย จึงควรอยู่ในอำนาจหน้าที่ของซีเอฟทีซี