เอเอฟพี - กลุ่มเกษตรกรรายย่อยหลายสิบกลุ่ม เริ่มการประชุมของตนเองในกรุงโรมเมื่อวันอาทิตย์ (1) เพื่อให้สอดคล้องกับการประชุมสุดยอดอาหารโลกที่จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ที่เมืองเดียวกัน โดยมุ่งหวังจะเรียกร้องประเทศต่าง ๆยกเครื่องนโยบายการเกษตรเสียใหม่เพื่อต่อสู้กับวิกฤตอาหารที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้
"ตอนนี้เรามีจานที่ว่างเปล่าพอๆ กับที่มีนโยบายที่ว่างเปล่าด้วย" พอล นิโคลสัน จาก ลา วีอา กัมเปซิน่า แนวร่วมเกษตรกรรายย่อยระหว่างประเทศกล่าว
"ขอให้เราได้ปกป้องและเป็นตัวแทนของระบบการเกษตรที่เลี้ยงปากเลี้ยงท้องประชากรโลกและสามารถต้านทานกับสถานการณ์โลกร้อนได้" เขากล่าวในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นที่ถนนด้านตรงข้ามกับสำนักงานใหญ่ขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ)
การประชุมสุดยอดอาหารโลกที่เอฟเอฟโอเป็นเจ้าภาพจะเริ่มขึ้นในวันอังคาร (3) จนถึงวันพฤหัสบดี (5) นี้ และจะมีผู้นำจากทั่วโลกมาเข้าหารือเรื่องความมั่นคงอาหารของโลก ที่กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะอาจเกิดเหตุจลาจล จากประชาชนยากจนที่ไม่สามารถหาซื้ออาหารมาประทังความหิวของคนในครอบครัวได้ หลังจากที่ราคาอาหารในโลกนี้พุ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
"นโยบายการค้าเสรีทำให้ระบบอาหารโลกถูกทำลายไปทีละน้อย นำไปสู่วิกฤตที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ในปัจจุบัน" มาร์ยัม เราะห์มาเนียน จากศูนย์พัฒนาเพื่อความยั่งยืนของอิหร่านกล่าว
เธอยังพูดอีกว่า การเคลื่อนไหวของชาวนากำลังถูกทำให้มีความสำคัญน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะในการประชุมสุดยอดของเอฟเอโอครั้งนี้ ให้แค่กลุ่มชาวนาเข้าไปพูดสรุปในวันสุดท้ายของการประชุมท่านั้น
อย่างไรก็ตามการประชุมของกลุ่มเกษตรกรเมื่อวันอาทิตย์ ได้เชิญตัวแทนของทั้งเอฟเอโอ และกองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาการเกษตร (ไอเอฟเอดี) แห่งสหประชาชาติเข้าไปนั่งฟังอยู่ด้วย นอกจากนี้โอลิวิเยร์ เดอ ชูตเตอร์ ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติ ทางด้านสิทธิการเข้าถึงอาหาร ก็อยู่ในที่ประชุม
กุนนิลลา โอลเสน จากไอเอฟเอดีได้รับเสียงตบมืออย่างอบอุ่น เมื่อเธอบอกว่า "วิกฤตอาหารเป็นการสะท้อนออกมาของวิกฤตทางสังคมและการกำหนดนโยบาย ไม่มีผลประโยชน์ใดของมนุษยชาติที่จะยิ่งไปกว่าการขจัดความหิวโหยอีกแล้ว"
ขณะที่ เราะห์มาเนียน ซึ่งนั่งอยู่ในคณะกรรมการจัดการประชุมคราวนี้ บอกกับเอเอฟพีก่อนหน้านี้ว่า เป็นเรื่องชวนสะอิดสะเอียนที่วิกฤตอาหารกำลังถูกใช้เพื่อผลักดันนโยบายจำพวกการส่งเสริมเกษตรกรรมขนาดใหญ่,เชื้อเพลิงชีวภาพ และการใช้พืชตัดต่อทางพันธุกรรม(จีเอ็มโอ) และยาฆ่าแมลง
"เอฟเอโอถูกยึดครองไปมากมายเสียแล้วโดยพวกผลประโยชน์อเมริกัน" เธอตั้งข้อหา
"ตอนนี้เรามีจานที่ว่างเปล่าพอๆ กับที่มีนโยบายที่ว่างเปล่าด้วย" พอล นิโคลสัน จาก ลา วีอา กัมเปซิน่า แนวร่วมเกษตรกรรายย่อยระหว่างประเทศกล่าว
"ขอให้เราได้ปกป้องและเป็นตัวแทนของระบบการเกษตรที่เลี้ยงปากเลี้ยงท้องประชากรโลกและสามารถต้านทานกับสถานการณ์โลกร้อนได้" เขากล่าวในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นที่ถนนด้านตรงข้ามกับสำนักงานใหญ่ขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ)
การประชุมสุดยอดอาหารโลกที่เอฟเอฟโอเป็นเจ้าภาพจะเริ่มขึ้นในวันอังคาร (3) จนถึงวันพฤหัสบดี (5) นี้ และจะมีผู้นำจากทั่วโลกมาเข้าหารือเรื่องความมั่นคงอาหารของโลก ที่กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะอาจเกิดเหตุจลาจล จากประชาชนยากจนที่ไม่สามารถหาซื้ออาหารมาประทังความหิวของคนในครอบครัวได้ หลังจากที่ราคาอาหารในโลกนี้พุ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
"นโยบายการค้าเสรีทำให้ระบบอาหารโลกถูกทำลายไปทีละน้อย นำไปสู่วิกฤตที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ในปัจจุบัน" มาร์ยัม เราะห์มาเนียน จากศูนย์พัฒนาเพื่อความยั่งยืนของอิหร่านกล่าว
เธอยังพูดอีกว่า การเคลื่อนไหวของชาวนากำลังถูกทำให้มีความสำคัญน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะในการประชุมสุดยอดของเอฟเอโอครั้งนี้ ให้แค่กลุ่มชาวนาเข้าไปพูดสรุปในวันสุดท้ายของการประชุมท่านั้น
อย่างไรก็ตามการประชุมของกลุ่มเกษตรกรเมื่อวันอาทิตย์ ได้เชิญตัวแทนของทั้งเอฟเอโอ และกองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาการเกษตร (ไอเอฟเอดี) แห่งสหประชาชาติเข้าไปนั่งฟังอยู่ด้วย นอกจากนี้โอลิวิเยร์ เดอ ชูตเตอร์ ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติ ทางด้านสิทธิการเข้าถึงอาหาร ก็อยู่ในที่ประชุม
กุนนิลลา โอลเสน จากไอเอฟเอดีได้รับเสียงตบมืออย่างอบอุ่น เมื่อเธอบอกว่า "วิกฤตอาหารเป็นการสะท้อนออกมาของวิกฤตทางสังคมและการกำหนดนโยบาย ไม่มีผลประโยชน์ใดของมนุษยชาติที่จะยิ่งไปกว่าการขจัดความหิวโหยอีกแล้ว"
ขณะที่ เราะห์มาเนียน ซึ่งนั่งอยู่ในคณะกรรมการจัดการประชุมคราวนี้ บอกกับเอเอฟพีก่อนหน้านี้ว่า เป็นเรื่องชวนสะอิดสะเอียนที่วิกฤตอาหารกำลังถูกใช้เพื่อผลักดันนโยบายจำพวกการส่งเสริมเกษตรกรรมขนาดใหญ่,เชื้อเพลิงชีวภาพ และการใช้พืชตัดต่อทางพันธุกรรม(จีเอ็มโอ) และยาฆ่าแมลง
"เอฟเอโอถูกยึดครองไปมากมายเสียแล้วโดยพวกผลประโยชน์อเมริกัน" เธอตั้งข้อหา
