อาซาฮี ชิมบุง – ชายหนุ่มซึ่งพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์ในกรุงโตเกียว แห่งเดียวกับหญิงสาวที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ยอมรับแล้วว่าเป็นคนฆ่าเธอ ก่อนหั่นศพสาวข้างห้องผู้นี้ แล้วทิ้งชิ้นส่วนร่างกายลงชักโครก แหล่งข่าวตำรวจเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (26)
ก่อนหน้านี้ นายทากาโนริ โฮชิจิม่า วัย 33 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ชั้นเดียวกับ น.ส.รุริกะ โทโจ หญิงสาวอายุ 23 ปีที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ได้บอกกับตำรวจว่า หลังจากเขาได้ยินเสียงเธอไขกุญแจและปิดประตูห้องตัวเองขณะที่หญิงสาวกลับถึงบ้านเมื่อวันที่ 18 เมษายน เขาก็จัดแจงบุกรุกเข้าไปในห้องพักของเธอโดยมีเจตนาที่จะข่มขืนเธอเท่านั้น
แต่ตำรวจสงสัยว่า โฮชิจิม่าใช้กำลังบังคับ น.ส.โทโจ เข้าไปในห้องพักของตัวเอง จัดการสังหารเธอ แล้วจึงหั่นศพเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนโยนทิ้งลงชักโครก
ทั้งนี้จากการเปิดเผยของตำรวจ โฮชิจิมา อาชีพรับจ้างชั่วคราว พักอยู่ห้อง 918 ซึ่งอยู่ห่างจากห้อง 916 ของโทโจ บนชั้น 9 ของอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตโคโตของกรุงโตเกียวไปเพียง 2 ห้อง
จากที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานได้นั้น เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.ของคืนวันที่ 18 เมษายน โทโจได้กลับมายังห้องพักของเธอ ซึ่งพักร่วมกับพี่สาว แต่เมื่อพี่สาวกลับถึงบ้านในเวลาประมาณ 20.45 น. ปรากฏว่าโทโจได้หายตัวไป พี่สาวของเธอจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจในอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา
ตำรวจพบรอยเลือดตรงบริเวณทางเข้าห้องพักของโทโจ และพบต่างหูตกอยู่ที่พื้น ขณะที่กล้องวงจรปิดไม่พบภาพโทโจออกจากตัวอาคาร ทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยว่า หญิงสาวผู้นี้อาจถูกทำร้ายและกักขังไว้โดยผู้ที่อาศัยในอาคารหลังเดียวกันนี้
เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นห้องพักทั้ง 150 ห้องของอาคาร รวมทั้งเข้าไปตรวจเช็กห้องพักของโฮชิจิม่าอยู่หลายรอบ
ในเบื้องต้น ตำรวจไม่พบอะไรในห้องพักของโฮชิจิม่าที่สามารถเชื่อมโยงตัวเขากับโทโจได้เลย แต่แล้วในวันเสาร์ (24) ตำรวจก็พบคราบเลือด ซึ่งน่าจะเป็นของโทโจที่ห้องของโฮชิจิม่า
ตำรวจยังพบมีดทำครัวหลายเล่มอยู่ภายในห้องพักของเขา ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่าอาจถูกนำไปใช้ในการหั่นศพ
นอกจากนั้น ตำรวจพบอีกว่า มีลายนิ้วมือของโฮชิจิม่าหลายรอยภายในห้องของโทโจ
จากการวิเคราะห์ภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกเอาไว้ ทีมสืบสวนพบว่า มีเพียงโฮชิจิม่าคนเดียวเท่านั้นที่อยู่บนชั้น 9 ในช่วงเวลาเดียวกับที่โทโจหายตัวไป
โฮชิจิม่าซึ่งถูกจับกุมตัวตั้งแต่วันอาทิตย์ (25) โดยต้องสงสัยว่ากระทำความผิดฐานบุกรุก ได้เคยให้การกับตำรวจก่อนหน้านั้นว่า เขาไม่เคยพบกับโทโจมาก่อนเลย แต่ภายหลังกลับบอกว่า เขาเคยโค้งให้เธอครั้งหนึ่ง
ในวันที่ 19 เมษายน หรือ 1 วันหลังจากโทโจหายตัวไป โฮชิจิม่าได้บอกกับผู้สื่อข่าวที่บริเวณด้านหน้าอพาร์ตเมนต์ว่า เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
“ไม่มีอะไรผิดปกติเลย ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรหรือเสียงกรีดร้อง เพราะห้องแต่ละห้องต่างก็กันเสียงได้อยู่แล้ว หลังจากผมกลับถึงห้อง (ในเวลา 18.00 น.) ผมก็อยู่แต่ในห้อง” เขากล่าว
โฮชิจิม่า บอกด้วยว่า เขาไม่ทราบแม้กระทั่งว่าผู้หญิงที่พักอยู่ห้อง 916 ชื่ออะไร
ขณะที่ผู้พักอาศัยรายหนึ่งในอาคารกลับบอกว่า ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงในคืนวันที่ 18 เมษายน