เอเจนซี - การประท้วงบนท้องถนนครั้งล่าสุดในประเทศไทย ระหว่างผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และ ฝ่ายต่อต้าน อาจลากทหารคืนสู่แถวหน้าทางการเมืองอีกครั้ง และสร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนต่างชาติ รอยเตอร์อ้างคำสัมภาษณ์ของนักวิเคราะห์
5 เดือนหลังการเลือกตั้งทั่วไป ในเจตนาดึงประเทศคืนสู่ประชาธิปไตย มีผู้ประท้วงราว 5,000 คน ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่หนุนหลังโดยทักษิณ ในเมืองหลวงเมื่อวันอาทิตย์ (25)
มีประชาชนราว 20 คน ได้รับบาดเจ็บในเหตุปะทะกันระหว่างฝ่ายต่อต้าน และฝ่ายสนับสนุนทักษิณ บริเวณที่ชุมนุม ซึ่งฝ่ายจัดการประท้วง บอกว่า ดำเนินการต่อต้านแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2007 เพื่อประโยชน์ของทักษิณ
“ถ้าการเผชิญหน้ารุนแรงยืดเยื้อยาวนาน บนท้องถนน จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต นั่นจะเป็นข้ออ้างตามธรรมเนียม สำหรับการรัฐประหารเพื่อคืนสู่สันติภาพ” อ.ธิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ นักวิเคราะห์แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าววันนี้ (26) “ณ ระดับนี้ เรากำลังมุ่งหน้าสู่สิ่งนั้นโดยตรง”
รอยเตอร์ รายงานต่อว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านทักษิณ เมื่อ 2 ปีก่อน เริ่มต้นจากกลุ่มเล็กๆ ก่อนจะเติบโตเป็นฝูงชนนับแสน ก่อนที่ทหารจะดำเนินการรัฐประหารในเดือนกันยายน 2006 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี สร้างความยุ่งเหยิงให้กับเศรษฐกิจและนักลงทุนต่างชาติ
หนึ่งในเหตุผลที่บรรดานายพลใช้เป็นข้ออ้างในการรัฐประหาร คือ ปกป้องการนองเลือดระหว่างฝ่ายต่อต้าน และสนับสนุนทักษิณ อย่างไรก็ตาม พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา หนึ่งในผู้นำการรัฐประหารปี 2006 กล่าวว่า จะไม่ทำรัฐประหารอีกครั้ง และเตือนว่า ตำรวจไทยควรปกป้องผู้ประท้วงบนท้องถนนจากเหตุวุ่นวายได้ “ต้องระวังอย่าให้เหตุการณ์บานปลาย เพราะจะทำให้บ้านเมืองเสียหาย”
