เอเจนซี - ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ลดฮวบลงมาต่ำกว่าระดับ 124 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้ (13) ภายหลังสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ตัดลดคำทำนายอัตราการขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันของโลกประจำปีนี้ลงมา ทำให้พวกนักลงทุนยิ่งเร่งการเทขายทำกำไร หลังจากที่ตลาดน้ำมันพุ่งลิ่วทำลายสถิติสูงสุดทุกวันทำการในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนั้น รายงานการนำเข้าน้ำมันของจีนประจำเดือนเมษายน ที่ปรากฏว่าปริมาณลดต่ำลงมา ซึ่งนับเป็นการถอยลงครั้งแรกในรอบ 18 เดือน ตลอดจนเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 30 ปีของประเทศนั้น ก็กำลังทำให้ตลาดเกิดคำถามกันว่า ประเทศผู้บริโภคน้ำมันมากเป็นอันดับสองของโลกรายนี้ กำลังจะมีความต้องการน้ำมันลดต่ำลงใช่หรือไม่
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์กเพื่อการส่งมอบเดือนมิถุนายน ราคาลดต่ำลงมา 58 เซ็นต์ เหลือ 123.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงสายๆ วานนี้ (13) ที่ลอนดอน หลังจากที่ปิดวันจันทร์ (12) ก็ลดลงมาจากปิดวันศุกร์ (9) แล้ว 1.73 ดอลลาร์ เหลือ 124.23 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ของลอนดอน ในตอนสายวานนี้ ถอยลงมา 47 เซ็นต์ อยู่ที่ 122.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยตอนปิดวันจันทร์ (12) นั้น อยู่ที่ 122.91 ดอลลาร์ ต่ำกว่าปิดวันศุกร์ (9) อยู่ 2.49 ดอลลาร์
รายงานประจำเดือนล่าสุดของไออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานมันสมองด้านพลังงานของ 27 ชาติอุตสาหกรรม ระบุว่า ราคาน้ำมันซึ่งแพงลิบเป็นประวัติการณ์ จะทำให้อัตราขยายตัวของดีมานด์ชะลอลงในปีนี้ จนเหลือเพียง 1.03 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) ต่ำลงมา 230,000 บีพีดี จากที่ไออีเอเคยพยากรณ์ไว้ครั้งก่อน
ไออีเอ บอกว่า อันที่จริงพวกประเทศเศรษฐกิจรุ่งเรืองใหม่ๆ นำโดยจีนและประเทศในตะวันออกกลาง ยังคงมีอัตราขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันในระดับที่แข็งแกร่ง ทว่าพวกนักลงทุนส่วนใหญ่กลับเห็นว่า ตัดสินใจเทขายทำกำไรเสียก่อนดีกว่า
"ทุกสายตากำลังจับจ้องถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในจีน ถ้าความเสียหายจากแผ่นดินใหญ่อยู่ในสภาพเลวร้ายเหมือนอย่างที่ดูจะเป็นเช่นนั้นในขณะนี้ มันก็จะต้องกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน" เป็นความเห็นของร็อบ ลาฟลินแห่งเอ็มเอฟ โกลบอล