เอเอฟพี – ผู้เชี่ยวชาญการก่อการร้ายของสหรัฐฯ ระบุจำนวนการโจมตีแบบพลีชีพโดยผู้หญิงในอิรักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ และคาดว่าอาจจะพุ่งสูงขึ้นอีกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
ฟาร์ฮานา อาลี นักวิเคราะห์นโยบายระหว่างประเทศของสหรัฐฯ จากปากีสถานเผยหลังการชุมนุมอภิปรายปัญหาเกี่ยวกับการก่อการร้าย ในการประชุมประจำปีของสมาคมนักจิตเวช ณ กรุงวอชิงตันว่า ระหว่างเดือนมกราคมและเมษายนนี้ มีการโจมตีพลีชีพโดยผู้หญิงในอิรักถึง 12 ครั้ง โดยเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
อาลียังเสริมว่า จำนวนผู้หญิงที่ก่อเหตุโจมตีในอิรักช่วง 2-3 เดือนแรกของปีนี้ มากขึ้นกว่าในระหว่างปี 2003-2007 ที่มีเหตุโจมตีพลีชีพเพียง 11 ครั้ง
“ตราบนานเท่าที่ความขัดแย้งยังดำเนินต่อไป คุณจะเห็นความไร้เสถียรภาพในอิรักรุนแรงขึ้น และผู้หญิงจะกลายเป็นเหยื่อมากขึ้น คุณจะเห็นผู้หญิงในอิรักเลือกฆ่าตัวตายเพื่อก่อการร้ายมากขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้” เธอคาด
อาลี ซึ่งทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนเข้าร่วมกับหน่วยงานเอกชนในฐานะนักวิเคราะห์นโยบายต่างประเทศ โทษว่า การเพิ่มของจำนวนมือระเบิดฆ่าตัวตายที่เป็นหญิงมีส่วนสำคัญมาจากข้อกำจัดของผู้หญิงนับตั้งแต่สหรัฐฯ บุกอิรักในปี 2003
อาลียังระบุว่า ผู้หญิงมักตกเป็นเหยื่อความขัดแย้ง ถูกข่มขืน ทรมาน ลักพาตัว พวกเธอจึงใช้การโจมตีเป็นการประท้วงความสูญเสียของประเทศ สังคม และบรรดาผู้ชาย
อย่างไรก็ตาม คาดว่า นักจิตเวช ราว 19,000 คน และแพทย์ดูแลด้านสุขภาพจิต จากทั่วโลกจะเข้าร่วมในการประชุมประจำปีของสมาคมจิตเวชอเมริกัน ในวันพฤหัสบดี (8) นี้ โดยผลกระทบทางด้านจิตใจจากสงคราม และความรุนแรงจะเป็นหัวข้อสำคัญของวาระการประชุม