เอเจนซี – ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศมาตรการดุดันเมื่อวันอาทิตย์(16) ในนิวยอร์ก ซึ่งตรงกับเช้าวันนี้ (17) ของประเทศไทย โดยลดอัตราดอกเบี้ยดิสเคานต์เรต ซึ่งคิดกับสถาบันการเงินต่างๆ ที่มาขอกู้จากเฟด ลงมา 0.25% พร้อมกันนั้นก็เปิดโครงการหรือช่องทางใหม่เป็นการชั่วคราว ที่จะทำให้บรรดาวาณิชธนกิจยักษ์ในวอลล์สตรีท สามารถขอกู้เงินไปช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องได้เพิ่มขึ้นอีก
ความเคลื่อนไหวในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งปกติแล้วเป็นสิ่งที่เฟดไม่ค่อยกระทำกัน จะทำให้อัตราดอกเบี้ยดิสเคาน์เรต ลงมาอยู่ที่ 3.50% ขยับลงใกล้เข้ามาอีกกับระดับ 3.25% ของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เฟดฟันด์เรต ซึ่งเป็นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยที่เฟดต้องการให้พวกธนาคารและสถาบันการเงินคิดในการปล่อยกู้ระหว่างกันในชั่วเวลาข้ามคืน
คำแถลงของเฟด ระบุว่า การลดดิสเคาน์เรตนี้มีผลบังคับใช้ในทันที และผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) อย่างเป็นเอกฉันท์
สำหรับช่องทางหรือมาตรการใหม่ในการที่สถาบันการเงินรายใหญ่จะขอกู้จากเฟดนั้น ธนาคารกลางสหรัฐฯ บอกว่า จะเป็นช่องทางที่พวก “primary dealers” ซึ่งก็คือ พวกวาณิชธนกิจ และบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหลายที่ทำธุรกิจโดยตรงกับเฟด สามารถที่จะขอกู้ระยะสั้นจากเฟดได้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยดิสเคานต์เรต ขณะที่หลักประกันซึ่งจะต้องนำไปวางกับธนาคารกลางนั้น ทางเฟดสาขานิวยอร์ก ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องปล่อยกู้นี้ บอกว่า จะยอมรับหลักประกันต่างๆ หลากหลาย รวมทั้งพวกหลักทรัพย์อิงสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้วยในบางกรณี เพื่อช่วยสถาบันการเงินซึ่งครอบครองหลักทรัพย์เหล่านี้อยู่ โดยที่ยังไม่อาจนำออกมาซื้อขายได้ เพราะระบบการเงินที่ตึงตัวมากในเวลานี้
เฟดนั้นมีช่องทางปล่อยกู้ทำนองเดียวกันนี้อยู่แล้ว นั่นคือ ช่องทาง “discount window” ทว่ามาตรการดังกล่าวปล่อยกู้ให้เฉพาะพวกแบงก์เท่านั้น สำหรับช่องทางใหม่นี้ เฟดบอกว่าจะใช้ชั่วคราวเป็นเวลา 6 เดือน แต่ก็อาจพิจารณาขยายไปอีกตามความจำเป็น