‘Terror’ attack a warning shot for Beijing
By Fong Tak-ho
13/03/2008
ทางการผู้รับผิดชอบของจีนบ่งชี้ว่า เหตุการณ์ที่คนร้ายพยายามจี้เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง เกี่ยวข้องโยงใยกับพวกต่อสู้เรียกร้องเอกราชในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง ซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่ห่างไกลทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่กำลังจะมีขึ้นใน 5 เดือนข้างหน้า การสอบสวนยังเผยให้เห็นแผน “ก่อการร้าย” อื่นๆ อีกหลายหลาก และเป็นการส่งข่าวสารอันชัดเจนยิ่งต่อรัฐบาลจีน
ฮ่องกง – ทางการผู้รับผิดชอบของจีนประกาศว่า เมื่อเร็วๆ นี้พวกเขาประสบความสำเร็จในการขัดขวางความพยายามของ “พวกผู้ก่อการร้าย” ซินเจียง ที่จะจี้เครื่องบินโดยสารซึ่งมุ่งหน้าไปกรุงปักกิ่ง โดยเป็นที่สงสัยกันว่า คนเหล่านี้ตั้งใจจะนำเครื่องบินที่จี้ได้ไปพุ่งชนให้พินาศภายในเขตเมืองหลวงของจีนด้วย เรื่องนี้เกิดขึ้นขณะที่สมัชชาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) และสภาปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน (ซีพีพีซีซี) กำลังเปิดประชุมประจำปีกันอยู่ และเรื่องนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลา 5 เดือนก่อนที่จะมีมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในกรุงปักกิ่ง
ทางการผู้รับผิดชอบของจีนเชื่อมโยงความพยายามโจมตีคราวนี้ ว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งตั้งอยู่ไกลโพ้นทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน และก็มีประชาชนบางส่วนในหมู่ชนชาติส่วนน้อยชาวอุยกูร์ที่นับถือศาสนาอิสลามของที่นั่น เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองของปักกิ่งอยู่ “ผู้ก่อการร้าย” 2 คนที่ก่อเหตุคราวนี้ถูกขัดขวางจับกุมโดยลูกเรือของเที่ยวบินที่เป็นของสายการบิน เซาเทิร์น แอร์ไลน์ ซึ่งออกจากเมืองอุรุมชี เมืองหลวงของมณฑลซินเจียง มุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง มีรายงานว่าทั้ง 2 เป็นชาวอุยกูร์ และคนหนึ่งทางสื่อจีนระบุว่าเป็นเด็กสาววัย 19 ปี
ยิ่งกว่านั้น ความพยายามเข้าโจมตีครั้งนี้ ยังบังเกิดขึ้นในวาระครบรอบปีที่ 11 ของเหตุการณ์รถโดยสารระเบิดขึ้นในกรุงปักกิ่งใกล้ๆ ทำเนียบจงหนานไห่ อันเป็นศูนย์บัญชาการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (ซีซีพี) และรัฐบาลกลางของจีน ขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก (East Turkestan Islamic Movement) ซึ่งตั้งฐานอยู่ต่างแดน และเวลานี้ถูกนานานชาติระบุเป็นกลุ่มก่อการร้ายแล้วนั้น ได้ออกมาประกาศว่าเหตุคราวนั้นเป็นฝีมือของพวกเขา
เมื่อพิจารณาจากสิ่งต่างๆ ทั้งหมดนี้ พวกนักวิเคราะห์จึงมองว่าจังหวะเวลาของความพยายามโจมตีคราวล่าสุด น่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แท้จริงแล้ว มันเป็นการวางแผนซึ่งมีการกำหนดรายละเอียดอย่างดี เพื่อมุ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส และเป็นการส่งคำเตือนอันชัดเจนต่อรัฐบาลจีน
ในวันที่ 9 มีนาคม นูร์ เบกรี ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง แถลงว่าเที่ยวบินซึ่งมุ่งหน้าสู่ปักกิ่งเที่ยวดังกล่าว ได้บินขึ้นจากเมืองอุรุมชีในเวลา 10.35 น.ของวันที่ 7 มีนาคม ทว่าในที่สุดแล้วเครื่องบินก็ต้องทำการร่อนลงจอดฉุกเฉินเมื่อเวเลา 12.40 น.ที่เมืองหลานโจว เมืองหลวงของมณฑลกานซู ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนและอยู่ติดกับซินเจียง หลังจากที่พวกลูกเรือบนเครื่องบินได้ช่วยกันจับกุมผู้หญิงคนหนึ่งและเพื่อนชายของเธออีกคนหนึ่ง ซึ่ง “พยายามก่อให้เกิดความหายนะทางอากาศ”
เบกรีประกาศเรื่องดังกล่าวในการแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นข้างเคียงการประชุมประจำปีของเอ็นพีซีที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม วาระการประชุมประจำปีของเอ็นพีซีมักกลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองที่สุดของแต่ละปีในประเทศจีน เมื่อบรรดาสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติระดับสูงสุดของประเทศต่างก็มาชุมนุมกันในกรุงปักกิ่ง ท่ามกลางแสงสปอตไลต์จับจ้องของสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เหตุรถโดยสารระเบิดใกล้ทำเนียบจงหนานไห่เมื่อ 11 ปีก่อน ก็บังเกิดขึ้นระหว่างวาระการประชุมประจำปีของเอ็นพีซีเช่นกัน โดยที่เกิดขึ้นในวันที่ 7 มีนาคมด้วย กล่าวคือ ระหว่างชั่วโมงการจราจรเร่งด่วนเมื่อเวลาราว 18.00 น.ของวันนั้น ระเบิดทำเองลูกหนึ่งได้เกิดระเบิดขึ้นบนรถโดยสารคันหนึ่งซึ่งกำลังมุ่งตรงไปยังจงหนานไห่ ทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 11 คน
แหล่งข่าวรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับทางการเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของซินเจียง และเล่าให้เอเชียไทมส์ออนไลน์ฟังในเงื่อนไขที่ขอให้ช่วยปกปิดชื่อ ได้ระบุว่าทางตำรวจจีนยังกำลังสืบสวนดูด้วยว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พวกผู้ต้องสงสัยคราวล่าสุดนี้ กำลังมุ่งหมายที่จะสร้างความเสียหายให้แก่อาคารที่พักผู้โดยสารแห่งที่ 3 ของท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองหลวงปักกิ่ง โดยอาคารดังกล่าวเพิ่งเริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้เอง อาคารที่พักผู้โดยสารแห่งใหม่เอี่ยมนี้ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าอาคารที่พักผู้โดยสารทั้ง 5 แห่งของท่าอากาศยานฮีธโรว์ ของกรุงลอนดอน ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้เมืองหลวงของจีนสามารถขยายศักยภาพในการรับผู้โดยสารทางอากาศ เพื่อเป็นการเตรียมตัวรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
ตามรายงานข่าวต่างๆ ของสื่อแผ่นดินใหญ่ ผู้ต้องสงสัยสำคัญที่สุดในความพยายามจี้เครื่องบินคราวนี้ ซึ่งเป็นเด็กสาวชนชาติอุยกูร์วัย 19 ปีจากซินเจียง ถูกจับกุมขณะกำลังพยายามที่จะเริ่มทำให้เกิดการระเบิดในเครื่องบินลำดังกล่าว รายงานข่าวหลายชิ้นบอกว่า พวกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรู้สึกเฉลียวใจถึงอันตราย เพราะได้กลิ่นของน้ำมันปิโตรเลียม และพยายามสืบสาวตามกลิ่นมาจนถึงเด็กสาวผู้นี้ ซึ่งได้พยายามดับกลิ่นน้ำมันด้วยน้ำหอมกลิ่นฉุน
รายงานข่าวเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางการเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ บ่งชี้ว่าพวกผู้ต้องสงสัยถูกจับได้ ขณะกำลังพยายามที่จะจุดระเบิดน้ำมันเชื้อเพลิงในห้องน้ำเครื่องบิน เด็กสาววัย 19 ปีผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่ามีจำนวนกี่คนกันแน่ โดยมีรายงานบางชิ้นบอกว่าอาจจะประกอบด้วยผู้หญิงสาวอีกคนหนึ่งด้วย
แหล่งข่าวคนที่เอเชียไทมส์ออนไลน์อ้างถึงก่อนหน้านี้ ยังกล่าวด้วยว่าทางตำรวจกำลังสอบสวนผู้ต้องสังสัยเหล่านี้ เพื่อให้ทราบว่าพวกเขาเคยไปรับการฝึกอบรมนอกประเทศจีนหรือเปล่า
มีสัญญาณอีกประการหนึ่งซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ว่า ปักกิ่งกำลังเผชิญภัยคุกคามด้านความมั่นคงปลอดภัยจากพวกเรียกร้องเอกราชของซินเจียงก่อนหน้ามหกรรมกีฬาโอลิมปิก นั่นคือ หวังเล่อฉวน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนสาขาซินเจียง ได้ออกมาแถลงว่า ตำรวจในเขตปกครองตนเอง สามารถทำลายที่กบดานของผู้ก่อการร้ายแห่งหนึ่ง โดยยิงคนร้ายเหล่านี้ตายไป 2 คนและจับกุมเอาไว้อีก 15 คน เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา หวังบอกว่าคนเหล่านี้กำลังวางแผนเพื่อสร้าง “ความโกลาหล” บางอย่างขึ้นในกรุงปักกิ่งระหว่างที่มีมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
เมื่อ 1 ปีก่อน นั่นคือในเดือนมกราคม 2007 ตำรวจซินเจียงเคยแถลงว่า พวกเขาได้ทำลายค่ายผู้ก่อการร้ายแห่งหนึ่งในเขตปกครองตนเองแห่งนั้น และสังหารผู้ก่อการร้ายตายไป 18 คน พวกเขาเชื่อว่าค่ายฝึกอบรมแห่งนี้ดำเนินการโดย ขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกสหประชาชาติขึ้นบัญชีในปี 2002 ว่าเป็นองค์การก่อการร้าย นอกจากนั้นยังกล่าวกันว่า มีสมาชิกของขบวนการนี้กว่า 1,000 คน ได้รับการฝึกอบรมจากพวกอัลกออิดะห์
พวกเรียกร้องเอกราชของซินเจียง มักจงใจเชื่อมโยงกิจกรรมของพวกเขาเข้ากับเรื่องการต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการนับถือศาสนา ตัวอย่างเช่น หลังเหตุรถโดยสารระเบิดในกรุงปักกิ่งเมื่อ 11 ปีก่อน ขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออกได้ประกาศอ้างว่า นี่เป็นการแก้แค้นต่อการที่ปักกิ่งปราบปรามขบวนการเรียกร้องเอกราชของชาวมุสลิมอย่างพวกเขา ด้วยเหตุนี้ ปักกิ่งจึงต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังในการจัดการกับความพยายามโจมตีครั้งล่าสุดนี้ และต้องแยกเรื่องการก่อการร้ายให้ออกจากเรื่องศาสนา ถ้าหากโลกมุสลิมรู้สึกว่าถูกลบหลู่แล้ว จีนก็คงจะต้องเสียอะไรไปอย่างราคาแพงทีเดียว
กลุ่มสิทธิมนุษยชนบางกลุ่มแสดงความระแวงอยู่แล้วว่า การที่จีนกำลังออกมาเตือนภัยคุกคามของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเป็นระลอก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรณรงค์อย่างจงใจ ที่มุ่งหมายจะสยบเสียงต่อต้านไม่เห็นด้วยกับทางการให้เงียบลงทั้งหมด ก่อนหน้ามหกรรมกีฬาโอลิมปิก
ในส่วนพวกนักวิเคราะห์ก็เรียกร้องให้รัฐบาลจีนดำเนินการสอบสวนถึงจุดอ่อนช่องโหว่ที่อาจจะมีอยู่ ในมาตรการรักษาความปลอดภัยที่กำลังใช้กันอยู่ ณ ท่าอากาศยานของซินเจียง มีรายงานว่าผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายทั้ง 2 คนดังกล่าว สามารถแอบนำเอาของเหลวที่ติดไฟได้ขึ้นไปบนเครื่องบิน พวกผู้นำจีนนั้นได้เริ่มนำเอาระบบความรับผิดชอบที่ต้องมีการตรวจสอบได้ (accountability) มาใช้ แต่ก็ยังไม่มีความแน่นอนว่า จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือผู้ปฏิบัติงานของรัฐบาลท้องถิ่นคนไหนหรือไม่ ที่จะออกมาแสดงความรับผิด ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคราวนี้
ทางด้านสำนักงานบริหารการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน อันเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินของประเทศ ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุครั้งนี้ โดยแถลงว่าจะไม่อนุญาต ให้นำของเหลวใดๆ ทั้งสิ้นขึ้นเครื่องบินซึ่งบินภายในประเทศระหว่างมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
ณ ที่ประชุมแถลงข่าวในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 12 มีนาคม รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หยางเจี๋ยฉือ กล่าวว่า ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้ก็ตาม จีนนั้นยังคงเป็นสถานที่ซึ่งมีความปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ก็ได้แต่หวังว่ามันจะยังเป็นเช่นนั้นต่อไปอีก
ฟองตั๊กโฮ เป็นบรรณาธิการจัดการของเอเชียไทมส์ออนไลน์ เวอร์ชั่นภาษาจีน
By Fong Tak-ho
13/03/2008
ทางการผู้รับผิดชอบของจีนบ่งชี้ว่า เหตุการณ์ที่คนร้ายพยายามจี้เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง เกี่ยวข้องโยงใยกับพวกต่อสู้เรียกร้องเอกราชในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง ซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่ห่างไกลทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่กำลังจะมีขึ้นใน 5 เดือนข้างหน้า การสอบสวนยังเผยให้เห็นแผน “ก่อการร้าย” อื่นๆ อีกหลายหลาก และเป็นการส่งข่าวสารอันชัดเจนยิ่งต่อรัฐบาลจีน
ฮ่องกง – ทางการผู้รับผิดชอบของจีนประกาศว่า เมื่อเร็วๆ นี้พวกเขาประสบความสำเร็จในการขัดขวางความพยายามของ “พวกผู้ก่อการร้าย” ซินเจียง ที่จะจี้เครื่องบินโดยสารซึ่งมุ่งหน้าไปกรุงปักกิ่ง โดยเป็นที่สงสัยกันว่า คนเหล่านี้ตั้งใจจะนำเครื่องบินที่จี้ได้ไปพุ่งชนให้พินาศภายในเขตเมืองหลวงของจีนด้วย เรื่องนี้เกิดขึ้นขณะที่สมัชชาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) และสภาปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน (ซีพีพีซีซี) กำลังเปิดประชุมประจำปีกันอยู่ และเรื่องนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลา 5 เดือนก่อนที่จะมีมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในกรุงปักกิ่ง
ทางการผู้รับผิดชอบของจีนเชื่อมโยงความพยายามโจมตีคราวนี้ ว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งตั้งอยู่ไกลโพ้นทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน และก็มีประชาชนบางส่วนในหมู่ชนชาติส่วนน้อยชาวอุยกูร์ที่นับถือศาสนาอิสลามของที่นั่น เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองของปักกิ่งอยู่ “ผู้ก่อการร้าย” 2 คนที่ก่อเหตุคราวนี้ถูกขัดขวางจับกุมโดยลูกเรือของเที่ยวบินที่เป็นของสายการบิน เซาเทิร์น แอร์ไลน์ ซึ่งออกจากเมืองอุรุมชี เมืองหลวงของมณฑลซินเจียง มุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง มีรายงานว่าทั้ง 2 เป็นชาวอุยกูร์ และคนหนึ่งทางสื่อจีนระบุว่าเป็นเด็กสาววัย 19 ปี
ยิ่งกว่านั้น ความพยายามเข้าโจมตีครั้งนี้ ยังบังเกิดขึ้นในวาระครบรอบปีที่ 11 ของเหตุการณ์รถโดยสารระเบิดขึ้นในกรุงปักกิ่งใกล้ๆ ทำเนียบจงหนานไห่ อันเป็นศูนย์บัญชาการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (ซีซีพี) และรัฐบาลกลางของจีน ขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก (East Turkestan Islamic Movement) ซึ่งตั้งฐานอยู่ต่างแดน และเวลานี้ถูกนานานชาติระบุเป็นกลุ่มก่อการร้ายแล้วนั้น ได้ออกมาประกาศว่าเหตุคราวนั้นเป็นฝีมือของพวกเขา
เมื่อพิจารณาจากสิ่งต่างๆ ทั้งหมดนี้ พวกนักวิเคราะห์จึงมองว่าจังหวะเวลาของความพยายามโจมตีคราวล่าสุด น่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แท้จริงแล้ว มันเป็นการวางแผนซึ่งมีการกำหนดรายละเอียดอย่างดี เพื่อมุ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส และเป็นการส่งคำเตือนอันชัดเจนต่อรัฐบาลจีน
ในวันที่ 9 มีนาคม นูร์ เบกรี ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง แถลงว่าเที่ยวบินซึ่งมุ่งหน้าสู่ปักกิ่งเที่ยวดังกล่าว ได้บินขึ้นจากเมืองอุรุมชีในเวลา 10.35 น.ของวันที่ 7 มีนาคม ทว่าในที่สุดแล้วเครื่องบินก็ต้องทำการร่อนลงจอดฉุกเฉินเมื่อเวเลา 12.40 น.ที่เมืองหลานโจว เมืองหลวงของมณฑลกานซู ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนและอยู่ติดกับซินเจียง หลังจากที่พวกลูกเรือบนเครื่องบินได้ช่วยกันจับกุมผู้หญิงคนหนึ่งและเพื่อนชายของเธออีกคนหนึ่ง ซึ่ง “พยายามก่อให้เกิดความหายนะทางอากาศ”
เบกรีประกาศเรื่องดังกล่าวในการแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นข้างเคียงการประชุมประจำปีของเอ็นพีซีที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม วาระการประชุมประจำปีของเอ็นพีซีมักกลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองที่สุดของแต่ละปีในประเทศจีน เมื่อบรรดาสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติระดับสูงสุดของประเทศต่างก็มาชุมนุมกันในกรุงปักกิ่ง ท่ามกลางแสงสปอตไลต์จับจ้องของสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เหตุรถโดยสารระเบิดใกล้ทำเนียบจงหนานไห่เมื่อ 11 ปีก่อน ก็บังเกิดขึ้นระหว่างวาระการประชุมประจำปีของเอ็นพีซีเช่นกัน โดยที่เกิดขึ้นในวันที่ 7 มีนาคมด้วย กล่าวคือ ระหว่างชั่วโมงการจราจรเร่งด่วนเมื่อเวลาราว 18.00 น.ของวันนั้น ระเบิดทำเองลูกหนึ่งได้เกิดระเบิดขึ้นบนรถโดยสารคันหนึ่งซึ่งกำลังมุ่งตรงไปยังจงหนานไห่ ทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 11 คน
แหล่งข่าวรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับทางการเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของซินเจียง และเล่าให้เอเชียไทมส์ออนไลน์ฟังในเงื่อนไขที่ขอให้ช่วยปกปิดชื่อ ได้ระบุว่าทางตำรวจจีนยังกำลังสืบสวนดูด้วยว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พวกผู้ต้องสงสัยคราวล่าสุดนี้ กำลังมุ่งหมายที่จะสร้างความเสียหายให้แก่อาคารที่พักผู้โดยสารแห่งที่ 3 ของท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองหลวงปักกิ่ง โดยอาคารดังกล่าวเพิ่งเริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้เอง อาคารที่พักผู้โดยสารแห่งใหม่เอี่ยมนี้ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าอาคารที่พักผู้โดยสารทั้ง 5 แห่งของท่าอากาศยานฮีธโรว์ ของกรุงลอนดอน ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้เมืองหลวงของจีนสามารถขยายศักยภาพในการรับผู้โดยสารทางอากาศ เพื่อเป็นการเตรียมตัวรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
ตามรายงานข่าวต่างๆ ของสื่อแผ่นดินใหญ่ ผู้ต้องสงสัยสำคัญที่สุดในความพยายามจี้เครื่องบินคราวนี้ ซึ่งเป็นเด็กสาวชนชาติอุยกูร์วัย 19 ปีจากซินเจียง ถูกจับกุมขณะกำลังพยายามที่จะเริ่มทำให้เกิดการระเบิดในเครื่องบินลำดังกล่าว รายงานข่าวหลายชิ้นบอกว่า พวกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรู้สึกเฉลียวใจถึงอันตราย เพราะได้กลิ่นของน้ำมันปิโตรเลียม และพยายามสืบสาวตามกลิ่นมาจนถึงเด็กสาวผู้นี้ ซึ่งได้พยายามดับกลิ่นน้ำมันด้วยน้ำหอมกลิ่นฉุน
รายงานข่าวเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางการเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ บ่งชี้ว่าพวกผู้ต้องสงสัยถูกจับได้ ขณะกำลังพยายามที่จะจุดระเบิดน้ำมันเชื้อเพลิงในห้องน้ำเครื่องบิน เด็กสาววัย 19 ปีผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่ามีจำนวนกี่คนกันแน่ โดยมีรายงานบางชิ้นบอกว่าอาจจะประกอบด้วยผู้หญิงสาวอีกคนหนึ่งด้วย
แหล่งข่าวคนที่เอเชียไทมส์ออนไลน์อ้างถึงก่อนหน้านี้ ยังกล่าวด้วยว่าทางตำรวจกำลังสอบสวนผู้ต้องสังสัยเหล่านี้ เพื่อให้ทราบว่าพวกเขาเคยไปรับการฝึกอบรมนอกประเทศจีนหรือเปล่า
มีสัญญาณอีกประการหนึ่งซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ว่า ปักกิ่งกำลังเผชิญภัยคุกคามด้านความมั่นคงปลอดภัยจากพวกเรียกร้องเอกราชของซินเจียงก่อนหน้ามหกรรมกีฬาโอลิมปิก นั่นคือ หวังเล่อฉวน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนสาขาซินเจียง ได้ออกมาแถลงว่า ตำรวจในเขตปกครองตนเอง สามารถทำลายที่กบดานของผู้ก่อการร้ายแห่งหนึ่ง โดยยิงคนร้ายเหล่านี้ตายไป 2 คนและจับกุมเอาไว้อีก 15 คน เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา หวังบอกว่าคนเหล่านี้กำลังวางแผนเพื่อสร้าง “ความโกลาหล” บางอย่างขึ้นในกรุงปักกิ่งระหว่างที่มีมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
เมื่อ 1 ปีก่อน นั่นคือในเดือนมกราคม 2007 ตำรวจซินเจียงเคยแถลงว่า พวกเขาได้ทำลายค่ายผู้ก่อการร้ายแห่งหนึ่งในเขตปกครองตนเองแห่งนั้น และสังหารผู้ก่อการร้ายตายไป 18 คน พวกเขาเชื่อว่าค่ายฝึกอบรมแห่งนี้ดำเนินการโดย ขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกสหประชาชาติขึ้นบัญชีในปี 2002 ว่าเป็นองค์การก่อการร้าย นอกจากนั้นยังกล่าวกันว่า มีสมาชิกของขบวนการนี้กว่า 1,000 คน ได้รับการฝึกอบรมจากพวกอัลกออิดะห์
พวกเรียกร้องเอกราชของซินเจียง มักจงใจเชื่อมโยงกิจกรรมของพวกเขาเข้ากับเรื่องการต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการนับถือศาสนา ตัวอย่างเช่น หลังเหตุรถโดยสารระเบิดในกรุงปักกิ่งเมื่อ 11 ปีก่อน ขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออกได้ประกาศอ้างว่า นี่เป็นการแก้แค้นต่อการที่ปักกิ่งปราบปรามขบวนการเรียกร้องเอกราชของชาวมุสลิมอย่างพวกเขา ด้วยเหตุนี้ ปักกิ่งจึงต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังในการจัดการกับความพยายามโจมตีครั้งล่าสุดนี้ และต้องแยกเรื่องการก่อการร้ายให้ออกจากเรื่องศาสนา ถ้าหากโลกมุสลิมรู้สึกว่าถูกลบหลู่แล้ว จีนก็คงจะต้องเสียอะไรไปอย่างราคาแพงทีเดียว
กลุ่มสิทธิมนุษยชนบางกลุ่มแสดงความระแวงอยู่แล้วว่า การที่จีนกำลังออกมาเตือนภัยคุกคามของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเป็นระลอก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรณรงค์อย่างจงใจ ที่มุ่งหมายจะสยบเสียงต่อต้านไม่เห็นด้วยกับทางการให้เงียบลงทั้งหมด ก่อนหน้ามหกรรมกีฬาโอลิมปิก
ในส่วนพวกนักวิเคราะห์ก็เรียกร้องให้รัฐบาลจีนดำเนินการสอบสวนถึงจุดอ่อนช่องโหว่ที่อาจจะมีอยู่ ในมาตรการรักษาความปลอดภัยที่กำลังใช้กันอยู่ ณ ท่าอากาศยานของซินเจียง มีรายงานว่าผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายทั้ง 2 คนดังกล่าว สามารถแอบนำเอาของเหลวที่ติดไฟได้ขึ้นไปบนเครื่องบิน พวกผู้นำจีนนั้นได้เริ่มนำเอาระบบความรับผิดชอบที่ต้องมีการตรวจสอบได้ (accountability) มาใช้ แต่ก็ยังไม่มีความแน่นอนว่า จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือผู้ปฏิบัติงานของรัฐบาลท้องถิ่นคนไหนหรือไม่ ที่จะออกมาแสดงความรับผิด ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคราวนี้
ทางด้านสำนักงานบริหารการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน อันเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินของประเทศ ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุครั้งนี้ โดยแถลงว่าจะไม่อนุญาต ให้นำของเหลวใดๆ ทั้งสิ้นขึ้นเครื่องบินซึ่งบินภายในประเทศระหว่างมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
ณ ที่ประชุมแถลงข่าวในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 12 มีนาคม รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หยางเจี๋ยฉือ กล่าวว่า ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้ก็ตาม จีนนั้นยังคงเป็นสถานที่ซึ่งมีความปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ก็ได้แต่หวังว่ามันจะยังเป็นเช่นนั้นต่อไปอีก
ฟองตั๊กโฮ เป็นบรรณาธิการจัดการของเอเชียไทมส์ออนไลน์ เวอร์ชั่นภาษาจีน