เอเอฟพี – พรรคสังคมนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของสเปน เอาชนะพรรคอนุรักษ์นิยม ฝ่ายค้าน ด้วยคะแนนเสียงมากกว่าเพียง 3% ในการเลือกตั้งรัฐสภา ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเผย โดยแสดงให้เห็นว่า พรรครัฐบาลไม่ได้เสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด
ผลการนับคะแนน 99.95% นายกรัฐมนตรีโฮเซ ลูอีส โรดริเกรซ ซาปาเตโร แห่งพรรคสังคมนิยมของสเปนชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 43.64% ในวันอาทิตย์ (9) ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยรักษาเก้าอี้ผู้แทนในรัฐสภาได้ 169 ที่นั่ง จากทั้งหมด 350 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจาก 4 ปีที่แล้ว ที่มี 164 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม พรรคของซาปาเตโรก็ไม่ได้คะแนนเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด และอาจต้องรวบรวมพันธมิตรพรรคเล็กพรรคน้อยเพื่อจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศด้วย
ด้าน พรรคป๊อบปูลาร์ ซึ่งเป็นฝ่ายค้านได้ที่นั่งในสภาไป 153 ที่นั่ง เพิ่มขึ้น 5 ที่นั่ง โดยมาริอาโน ราฮอย หัวหน้าพรรคอ้างว่า พรรคของเขาได้คะแนนเพิ่มขึ้นมากที่สุดในแง่คะแนนเสียง และอัตราร้อยละ
สำหรับ ผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้มีทั้งหมด 75.32% เกือบเทียบเท่ากับการเลือกตั้งรัฐสภาของสเปนครั้งก่อนที่สูงถึง 75.66%
ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกตั้งวุฒิสภา ซึ่งจัดในวันเดียวกัน พรรคฝ่ายค้านสูญเสียที่นั่งไป 1 จึงได้เพียง 101 ที่นั่งจากทั้งหมด 264 ที่นั่งในสภาสูง โดยพรรคสังคมนิยมของซาปาเตโรได้ที่นั่งมากขึ้น 8 ที่นั่ง และขณะนี้มีวุฒิสมาชิกแล้ว 89 คน
ขณะที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผู้ออกมาใช้สิทธิ์จำนวนมากเป็นส่วนสำคัญของโอกาสในการได้รับเลือกตั้งอีกครั้งของซาปาเตโร แต่การที่พรรคสังคมนิยมไม่ได้เสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดอาจทำให้การออกมาตรการฉุกเฉินกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการหาเสียงครั้งนี้ เกิดปัญหาล่าช้าได้
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวเพียง 2% หลังจากขยายตัว 3.8% ในปีที่ผ่านมา และจะยิ่งแย่ลงหากบริษัทอสังหาริมทรัพย์เริ่มไม่ชำระหนี้สินจำนวนมหาศาล
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์การเมืองชี้ว่า ประสิทธิภาพของซาปาเตโร ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวจะขึ้นอยู่กับการจับมือกับพรรคเล็ก คาดว่าพรรคสังคมนิยมของเขาจะตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคซีไอยู ที่น่าจะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร 10 ที่นั่ง