เอเอฟพี – เกาหลีเหนือประหารชีวิตพลเมือง 15 คน เป็นหญิง 13 คน และชาย 2 คน หลังหนีความอดอยากแร้นแค้นในเกาหลีเหนือด้วยการลักลอบข้ามพรมแดนเข้าไปหาอาหารในจีน
กลุ่มกู๊ด เฟรนด์ส ซึ่งเป็นกลุ่มบรรเทาทุกข์ของเกาหลีใต้ในเกาหลีเหนือ กล่าวว่า ชาวเกาหลีเหนือ 15 คน ถูกทางการเกาหลีเหนือประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าที่สะพานแห่งหนึ่งในเขตจูวอนกู ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองออนซอง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ยืนมองการประหารชีวิตดังกล่าวด้วยน้ำตา เนื่องจากต่างเห็นว่าการยิงเป้าดังกล่าวเป็นมาตรการลงโทษที่รุนแรงมากเกินไป
“พวกเขาทำไปเพื่อความอยู่รอดเท่านั้น ทุกคนต่างกลัวว่าจะไม่มีข้าวกิน และการยิงเป้าก็ทำให้ชาวบ้านรู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก” ชาวบ้านคนหนึ่งที่มาดูการยิงเป้า กล่าว
กลุ่มกู๊ด เฟรนด์ส ระบุในจดหมายข่าวด้วยว่า ชาวเกาหลีเหนือทั้ง 15 คน ถูกทางการเกาหลีเหนือจับกุมฐานลักลอบข้ามพรมแดนเข้าไปในจีน รวมถึงช่วยผู้อื่นให้กระทำการดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เข้าไปขอความช่วยเหลือเรื่องปากท้องจากบรรดาญาติที่พักอาศัยอยู่ในจีน
กลุ่มกู๊ด เฟรนด์ส ยังได้อ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคนหนึ่ง ว่า การประหารชีวิตดังกล่าวมีขึ้นเพื่อยับยั้งชาวเกาหลีเหนือที่จะลักลอบข้ามพรมแดนเข้าไปในจีนในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น
“มันกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นรายวันไปแล้วที่ชาวบ้านจำนวนหนึ่งจะหายตัวไป ก่อนที่จะลักลอบข้ามพรมแดนเข้าไปหาญาติๆ ในจีน เรายิงเป้าพวกเขาเพื่อเป็นการเตือนชาวบ้านคนอื่นๆ” เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าว
กลุ่มบรรเทาทุกข์ของเกาหลีใต้ ชี้ว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ที่ลักลอบข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายจะได้รับโทษจำคุก โดยทางการเกาหลีเหนือได้เพิ่มโทษจำคุกจาก 3 ปีเป็นสูงสุด 7 ปีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลในเรื่องความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ ยังไม่ได้ออกมายืนยันรายงานข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ชาวเกาหลีเหนือต้องประสบกับความอดอยากแร้นแค้นอย่างหนัก จนทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนต้องลักลอบข้ามพรมแดน เพื่อเข้าไปหาเสบียงอาหาร ก่อนที่จะกลับมายังเกาหลีเหนืออีกครั้ง ขณะที่บางส่วนพยายามหลบหนีออกจากเกาหลีเหนือผ่านประเทศจีน ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนคาดว่า น่าจะมีชาวเกาหลีเหนือที่หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนจำนวนหลายหมื่นคน ก่อนที่ผู้อพยพดังกล่าวจะเดินทางต่อไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยหวังว่าจะได้รับสิทธิ์ในการตั้งถิ่นฐานอย่างถาวรในเกาหลีใต้ต่อไป
