ตร.ปราบจลาจลใช้กำลังสลายการชุมนุมต้านการเลือกตั้งรัสเซีย

เอเจนซี - ตำรวจปราบจลาจลรัสเซียเมื่อวันจันทร์ (3) ปะทะกับผู้ชุมนุมกลุ่มเล็กๆที่ออกมาประท้วงต่อต้าน ดมิทรี เมดเวเดฟ ว่าที่ประธานาธิบดีภายใต้อุปถัมภ์ของวลาดิมีร์ ปูติน

ตำรวจปราบจลาจลกว่า 300 คน เข้าจับกุมตัวกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายสิบคน โดยบางคนถูกเจ้าหน้าที่ใช้ตะบองฟาดและลากขึ้นรถตำรวจ

ผู้ชุมนุมบางคนจุดพลุไฟ ส่งผลให้กลุ่มควันพวยพุ่งคลุ้งทั่วย่านจตุรัสในกลางกรุงมอสโก พร้อมตะโกนว่า “การเลือกตั้งของคุณคือสิ่งน่าหัวเราะ” และ “เผด็จการฟาสซิสต์ เผด็จการฟาสซิสต์”

“มันคือหน้าที่ของฉันที่ต้องมาที่นี่และแสดงออกต่อต้านการเลือกตั้งที่มีการวางแผนล่วงหน้าและจอมปลอม” เยลิซาเวตา ผู้ประท้วงหญิงวัย 50 เศษๆ บอกกับรอยเตอร์ ระหว่างที่ตำรวจปราบจลาจลลุยเข้ารวบตัวผู้ชุมนุมที่อยู่รอบตัวเธอ “ตอนนี้พวกเขากำลังลากเราออกไปทีละคน”

แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงและพวกเสรีนิยมฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เรียกร้องให้มีการชุมนุมต่อเนื่องเพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้งที่ เมดเวเดฟ ได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์

เมดเวเดฟ ให้การยืนยันถึงคำมั่นสัญญาของเขาอีกครั้งที่จะดำเนินแนวทางนโยบายของประธานาธิบดีปูติน ในฐานะที่ปรึกษาของเขา

อย่างไรก็ตาม เขายังให้การรับรองว่า เขาจะเป็นตัวของตัวเอง โดยรวมถึงนโยบายการต่างประเทศ แม้ว่าเขาจะสัญญาแต่งตั้งปูตินเป็นนายกรัฐมนตรี

การ์รี กาสปาคอฟ ผู้นำฝ่ายค้านและอดีตแชมป์หมากรุกโลก ที่ไปเข้าร่วมชุมนุมในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ทางตอนเหนือของรัสเซีย บอกว่ามีประชาชนราว 250 คน ถูกจับกุมตัวในมอสโก แต่ทางโฆษกตำรวจปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว

ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก มีผู้ชุมนุมราว 2,000 คน ร้องตะโกนว่า “ปฏิวัติ ปฏิวัติ” และ “รัสเซียปราศจากปูติน” ทั้งนี้ แม้ว่าการชุมนุมจะได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ แต่แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวถูกควบคุมตัวก่อนการชุมนุม

ผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศ ตำหนิสภาพที่ไม่ยุติธรรมในการเลือกตั้งที่จัดขึ้นครั้งนี้ ตั้งแต่ก่อนที่การลงคะแนนเสียงจะเริ่มขึ้น ซึ่งเมดวีเดฟได้รับการปกปิดข่าวจากสื่อของทางการรัสเซีย และฝ่ายค้านหัวเสรีถูกกันไม่ให้ลงทะเบียน

นอกจากนี้ พรรคคอมมิวนิสต์ และองค์กรดูแลการเลือกตั้งอิสระ โกโลส ยังได้บันทึกการละเมิดกฎหมายครั้งใหญ่ในวันเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย

สำหรับผู้สมัครคนอื่นๆ วลาดิมีร์ ซีรีนอฟสกี นักชาตินิยมได้คะแนนเสียง 9.4% และ อังเดร บอกดานอฟ ได้คะแนนเพียง 1.2% เท่านั้น ท่ามกลางผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจำนวน 109 ล้านคน