เอเอฟพี – กลุ่มกบฏเหมาอิสต์กว่าร้อยคนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านเสียชีวิต 13 ราย บริเวณภาคตะวันออกของอินเดีย นับเป็นการโจมตีโดยกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายซ้ายครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายเดือน เจ้าหน้าที่เผย
กลุ่มกบฏเข้าโจมตีสถานีตำรวจ 2 ในในรัฐโอริสสา ทางตะวันออกของอินเดีย ช่วงดึกคืนวันศุกร์ (15) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น และได้ขโมยอาวุธก่อนหลบหนีไป พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าว
“การโจมตีเกิดขึ้นทันทีช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้ พวกเขาสังหารตำรวจ และพลเรือน 13 คน” ราเจช คูมาร์ ผู้อำนวยการตำรวจเผย โดยระบุว่าการโจมตีเกิดขึ้นในเขตนายาการ์ห ห่างจากภูบาเนสวาร์ เมืองหลวงของรัฐโอริสสาประมาณ 100 กิโลเมตร
“พวกเขาโจมตีสถานีตำรวจของเขตนายาการ์ห และดัสพัลลา สถานีตำรวจใกล้เคียง” คูมาร์กล่าว ทั้งยังเสริมว่า กลุ่มกบฏดังกล่าวยังจุดไฟเผาโรงเรียนฝึกตำรวจด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มหัวรุนแรงเหมาอิสต์ ซึ่งเริ่มก่อตัวในการจลาจลปี 1967 ได้แพร่กระจายไปทั่วอินเดียกว่า 29 รัฐ โดยนายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ ระบุว่า กลุ่มกบฏนี้เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดเพียงอย่างเดียวของความมั่นคงภายในอินเดีย ทว่า กลุ่มเหมาอิสต์ชี้ว่า พวกเขาต่อสู้เพื่อสิทธิของชนเผ่าที่ถูกละเลย และชาวนาที่ไร้ที่ดิน
กลุ่มกบฏเข้าโจมตีสถานีตำรวจ 2 ในในรัฐโอริสสา ทางตะวันออกของอินเดีย ช่วงดึกคืนวันศุกร์ (15) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น และได้ขโมยอาวุธก่อนหลบหนีไป พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าว
“การโจมตีเกิดขึ้นทันทีช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้ พวกเขาสังหารตำรวจ และพลเรือน 13 คน” ราเจช คูมาร์ ผู้อำนวยการตำรวจเผย โดยระบุว่าการโจมตีเกิดขึ้นในเขตนายาการ์ห ห่างจากภูบาเนสวาร์ เมืองหลวงของรัฐโอริสสาประมาณ 100 กิโลเมตร
“พวกเขาโจมตีสถานีตำรวจของเขตนายาการ์ห และดัสพัลลา สถานีตำรวจใกล้เคียง” คูมาร์กล่าว ทั้งยังเสริมว่า กลุ่มกบฏดังกล่าวยังจุดไฟเผาโรงเรียนฝึกตำรวจด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มหัวรุนแรงเหมาอิสต์ ซึ่งเริ่มก่อตัวในการจลาจลปี 1967 ได้แพร่กระจายไปทั่วอินเดียกว่า 29 รัฐ โดยนายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ ระบุว่า กลุ่มกบฏนี้เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดเพียงอย่างเดียวของความมั่นคงภายในอินเดีย ทว่า กลุ่มเหมาอิสต์ชี้ว่า พวกเขาต่อสู้เพื่อสิทธิของชนเผ่าที่ถูกละเลย และชาวนาที่ไร้ที่ดิน