เอเจนซี – โจรปล้นแบงก์ซึ่งกำลังต้องโทษภาคทัณฑ์ แต่ดวงเฮงถูกรางวัลแจ๊กพอตเป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์ (33,260,000 บาท) ได้รับอนุญาตจากศาลให้สามารถเก็บเงินก้อนดังกล่าวไว้ได้ แม้การซื้อลอตเตอรีของเขาจะเป็นการฝ่าฝืนกฎภาคทัณฑ์ก็ตามที
ริชาร์ด คอนนอน ผู้พิพากษาศาลสูงในบาร์นสเตเบิล ได้ตัดสินให้ ทิโมธี เอลเลียต วัย 55 ปี สามารถเป็นเจ้าของเงินรางวัลจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ (33,260,000 บาท) ได้ตามที่ฝ่ายภาคทัณฑ์เห็นสมควร อย่างไรก็ตาม ศาลมีคำสั่งให้เอลเลียตต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมระหว่างการภาคทัณฑ์เดือนละ 65 ดอลลาร์ (2,161 บาท) ให้กับทางการ หลังเขาได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมก่อนหน้านี้ เนื่องจากความขัดสนทางการเงิน
ขณะที่เอลเลียตยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในเมืองบอร์นภายใต้การดูแลของหน่วยงานด้านสุขภาพจิตรัฐแมสซาชูเซตส์
ก่อนหน้านี้ ทนายความของเอลเลียต ออกมาระบุว่า การฝ่าฝืนกฎภาคทัณฑ์ของลูกความของเขาเป็นเพียงความผิดเล็กน้อย ขณะที่คณะกรรมการลอตเตอรีของรัฐแมสซาชูเซตส์ แสดงความเห็นว่า ไม่มีเหตุผลที่คณะกรรมการจะยกเลิกเงินรางวัลดังกล่าว
เมื่อเดือนตุลาคมปี 2006 เอลเลียต ยอมรับว่า ได้ก่อเหตุปล้นแบงก์แห่งหนึ่งในเคปค็อด และถูกตัดสินให้รับโทษภาคทัณฑ์เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งโทษดังกล่าวห้ามไม่ให้เขาเล่นการพนันใดๆ รวมถึงห้ามซื้อลอตเตอรี และเดินทางไปในสถานที่ที่มีการเล่นพนัน
ทั้งนี้ เอลเลียต ซื้อลอตเตอรีราคา 10 ดอลลาร์ (332 บาท) ใบหนึ่งมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองไฮอันนิส ซึ่งเป็นลอตเตอรีชิงเงินรางวัลก้อนโตถึง 800 ล้านดอลลาร์ (26,608 ล้านบาท) ขณะที่คณะกรรมการลอตเตอรีได้จ่ายเงินรายปีงวดแรกจำนวน 50,000 ดอลลาร์ (1,663,000 บาท) ให้กับเอลเลียตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว