นานาชาติเร่งใช้การทูตยุติความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ในเคนยา

เอเอฟพี – บรรดาผู้นำทางการเมืองของเคนยา ต่างโยนความผิดให้ฝ่ายตรงข้ามว่ายุยงให้เกิดความรุนแรงทางชาติพันธุ์ ขณะที่นานาชาติต้องใช้ความพยายามทางการทูต เพื่อยุติเหตุจลาจลประท้วงการเลือกตั้ง ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 342 ราย

สถานการณ์ความไม่สงบภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นหลักอยู่ที่ความขัดแย้งในขั้นตอนการนับคะแนน ทำให้เกิดเหตุปะทะตามตัวเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 25 ปีของประเทศเคนยา ขณะที่ประชาชนราว 70,000 ชีวิต ต้องอพยพหนีตายออกมาจากบ้านเรือน

จอห์น คูฟูร์ ประธานาธิบดีแห่งกานา ในฐานะประธานสหภาพแอฟริกา จะเดินทางเยือนกรุงไนโรบี ในวันนี้ (3) เพื่อหาทางไกล่เกลี่ย โดยร่วมมือกับอะห์เหม็ด เตจัน คอบบะห์ หัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์แห่งเครือจักรภพที่ประจำการอยู่ในดินแดนแห่งนี้

ด้าน วันการี มาอาธานี ชาวเคนยา ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพออกมาวิงวอนให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาพูดคุยกัน ขณะที่ยังมีรายงาน เหตุปะทะในประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ฝ่ายรัฐบาลก็ออกมาตอบรับคำวิงวอนดังกล่าว แต่ก็บอกว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะมีการปรองดอง

อัลเฟรด มูทัว โฆษกรัฐบาล แถลงว่า “เคนยา ไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม และไม่จำเป็นต้องมีคณะไกล่เกลี่ย หรือผุ้รักษาสันติภาพ”

แดเนียล อารัป มอย อดีตประธานาธิบดีเคนยา ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุความไม่สงบครั้งนี้ ทำให้เกิดความเกลียดชังแบบกู่ไม่กลับในหมู่ชาติพันธุ์ต่างๆ กว่า 42 กลุ่มของประเทศ

การที่ประธานาธิบดี เอ็มวาอิ คิบาคี จากชนเผ่าคีคูยู ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ของเคนยา สามารถรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้แบบฉิวเฉียดในเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดี (27) ที่แล้ว และการสาบานตนเข้าตำแหน่งในวันอาทิตย์ (30) ที่ผ่านมา ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้งจาก ไรลา โอดิงกา ประธานพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นชาวเผ่าลูโอ ชนเผ่าอันดับรอง ทำให้เหตุปะทะทั่วประเทศ โดยส่วนมากเป็นความรุนแรงทางชาติพันธุ์อย่างเห็นได้ชัด อาทิ การสังหารแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน หรือการลอบวางเพลิง

คิวูธา คิบวานา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดิน กล่าวโทษโอดิงกาฐานปลุกปั่นให้มีการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันที่ผู้นำฝ่ายค้านคนดังกล่าวโจมตีรัฐบาล

โอดิงกา มีแผนที่จะจัดการเดินขบวนครั้งใหญ่กลางกรุงไนโรบี ในวันนี้ (3) เพื่อประกาศตัวว่าเป็น “ประธานาธิบดีของปวงชน” แม้ว่าทางตำรวจจะออกมาขู่ว่า อาจถูกจับกุมก็ตาม

การที่รัฐบาลออกประกาศห้ามการเดินขบวนประท้วง ยิ่งสร้างความหวั่นวิตกว่าอาจะเกิดเหตุปะทะระหว่างตำรวจและผู้สนับสนุนผู้นำฝ่ายค้าน

ทั้งนี้ เมื่อคืนวันพุธ (2) ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอีก 36 ราย ซึ่งต่ำกว่าคืนก่อนๆ นี้มาก ทว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและเหล่ามิชชันนารีที่ประจำอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ต่างหวั่นวิตกกับตัวเลขการสังหารในเขตชนบทที่ยังไม่ได้รับการรายงาน

นับตั้งแต่วันเลือกตั้งเมื่อใกล้สิ้นปีที่แล้ว สถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในเคนยา คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 342 คน จากการรวบรวมขอสำนักข่าวเอเอฟพี ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์, ตำรวจ และสัปเหร่อทั่วทั้งประเทศ