มอบนโยบายหน่วยงานในสังกัดฯ เตรียมความพร้อมด้านการให้บริการ-ความปลอดภัยอย่างเต็มกำลังรองรับความ
วานนี้ (29 ธ.ค.) เวลา 17.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการให้บริการด้านระบบขนส่งสาธารณะ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อติดตามภาพรวมการเดินทางของผู้โดยสารรถไฟ และเตรียมรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหาร กระทรวงคมนาคมและ การรถไฟฯ ให้การต้อนรับ
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงคมนาคมในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการคมนาคมขนส่งทุกระบบ จึงได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมด้านการให้บริการและความปลอดภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยเน้นย้ำให้ดูแลผู้โดยสารและประชาชนที่มาใช้บริการรถไฟให้ได้รับความสะดวกสูงสุดตลอดการเดินทาง
ในโอกาสเดียวกัน นายพิพัฒน์ กล่าวในที่ประชุมถึงแนวทางยกระดับการให้บริการของการรถไฟฯ โดยขอให้คำนึงถึงวิถีชีวิตและศาสนกิจของประชาชนในพื้นที่เส้นทางภาคใต้ โดยเฉพาะพี่น้องชาวมุสลิม เพื่อให้สามารถปฏิบัติศาสนกิจระหว่างการเดินทางได้อย่างเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องจัดเป็นห้องถาวร แต่ขอให้มีพื้นที่ที่เหมาะสม สะท้อนถึงความเข้าใจในความหลากหลายทางศาสนาและการให้บริการที่เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง
พร้อมกันนี้ ยังได้มอบนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณายกระดับการบริหารจัดการทรัพย์สินและพื้นที่ขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงพื้นที่สำคัญ เช่น สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อสร้างรายได้ เพิ่มศักยภาพทางการเงิน ลดภาระการขาดทุน และเสริมความเข้มแข็งขององค์กรในระยะยาว โดยขอให้ประสานหารือกับสหภาพแรงงานอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน มุ่งสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจที่สามารถพึ่งพาตนเองและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ด้าน นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เตรียมมาตรการรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเพิ่มเติมจากขบวนรถประจำในเส้นทางสายเหนือ สายใต้ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 18 ขบวน พร้อมพ่วงตู้โดยสารให้เต็มหน่วยลากจูงในทุกขบวน รวม 210 เที่ยวต่อวัน สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดประมาณหนึ่งแสนคนต่อวัน นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มขบวนรถเฉพาะกิจอีก 9 ขบวน รวม 23 เที่ยว ในเส้นทางสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์–ศิลาอาสน์, กรุงเทพอภิวัฒน์–อุบลราชธานี, กรุงเทพอภิวัฒน์–อุดรธานี, กรุงเทพอภิวัฒน์–นครราชสีมา, กรุงเทพอภิวัฒน์–ยะลา และกรุงเทพอภิวัฒน์–เชียงใหม่ เพื่อกระจายปริมาณผู้โดยสารและลดความแออัดในช่วงการเดินทางหนาแน่น
ในด้านความปลอดภัย การรถไฟฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารทั้งภายในสถานีและบนขบวนรถ ตรวจสอบความพร้อมของรถจักรและตู้โดยสารอย่างละเอียด ติดตั้งและเฝ้าระวังผ่านกล้องวงจรปิด CCTV ทั่วประเทศ ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติดของพนักงานก่อนปฏิบัติหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถและภายในสถานีรถไฟ นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมบนขบวนรถไฟ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถ ร่วมกับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ได้จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยทั่วประเทศ เพื่อรับแจ้งเหตุและประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 รวม 7 วัน พร้อมประสานความร่วมมือกับฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นและอาสาสมัครเฝ้าระวังบริเวณจุดตัดเสมอระดับรถไฟ–รถยนต์ในพื้นที่เสี่ยงหรือชุมชนหนาแน่น เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทั้งทางถนนและทางรถไฟ
นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยยังได้ส่งมอบความสุขให้แก่ผู้ใช้บริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ด้วยการจัดกิจกรรมมอบถุง “รถไฟรักษ์โลก” จำนวน 5,000 ใบ ให้แก่ผู้โดยสาร ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีสำคัญทั่วภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อแสดงความขอบคุณและส่งต่อความห่วงใยในการเดินทางตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม


